TNN online Meta กับ Netflix ไม่รอด ! จากความเห็นลูกจ้างบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ในเว็บบอร์ด

TNN ONLINE

Tech

Meta กับ Netflix ไม่รอด ! จากความเห็นลูกจ้างบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ในเว็บบอร์ด

Meta กับ Netflix ไม่รอด ! จากความเห็นลูกจ้างบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ในเว็บบอร์ด

ส่องกระทู้เว็บบอร์ดดังสำหรับคนทำงานสายเทค พบคนส่วนใหญ่ในกระทู้คิดตรงกันว่าอีก 10 ปี ต่อจากนี้ Meta กับ Netflix จะตกชั้นจากบริษัทเทคโนโลยีแนวหน้า

หากพูดถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีเมื่อราว ๆ 10 ปี ก่อน หลายคนอาจจะนึกถึง ยาฮู (Yahoo) ไอบีเอ็ม (IBM) หรือบริษัทด้านการประชุมทางไกล (Teleconference) อย่างซิสโก้ (Cisco) แต่ทุกวันนี้บริษัทเหล่านี้ต่างไม่ได้เป็นดาวเด่นบนสังเวียนนี้อีกต่อไป ยังคงมีเพียงแต่ไมโครซอฟต์ (Microsoft) กูเกิล (Google) และแอมะซอน (Amazon) ที่ยังคงอยู่ถึงวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีคนตั้งคำถามในกลุ่มสำหรับพนักงานในบริษัทเหล่านี้ รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังอื่น ๆ ว่าในอนาคตอีก 10 ปี บริษัทใดที่จะยังได้ไปต่อ และบริษัทไหนบ้างที่จะต้องโดนกลืนไปในสงครามเทคโนโลยีนี้


คำถามนี้เกิดขึ้นใน บลายนด์ (Blind) เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่เปิดพื้นที่ให้กับเหล่ามนุษย์เงินเดือนในบริษัทต่าง ๆ เข้ามาตั้งกระทู้แลกเปลี่ยนความเห็นแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous Forum) ซึ่งจะต้องลงทะเบียนด้วยอีเมลของบริษัทเท่านั้น แต่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกปิดบังเป็นความลับและป้องกันการแกะรอยอย่างสมบูรณ์ 


คำถามมีอยู่ว่าบริษัทเทคโนโลยี 10 อันดับแรกของโลกในทศวรรษหน้าจะเป็นอย่างไร ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นมากกว่า 900 ความคิดเห็น โดยระบุตรงกันเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่า ไมโครซอฟต์ (Microsoft) กูเกิล (Google) แอปเปิล (Apple) และแอมะซอน (Amazon) จะยังคงอยู่ต่อไป ส่วนเมตา (Meta) นั้นมีโอกาสเสี่ยงล่มสลายจากการแพ้เดิมพันในการทุ่มทุนกับเมตาเวิร์ส (Metaverse) มากเกินไป ในขณะที่เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) นั้นส่วนใหญ่ต่างมองว่าจะพบจุดจบด้วยการขายบริษัทหรือการควบรวมกิจการกับสตรีมมิ่ง (Streaming) เจ้าอื่น


Meta และ Netflix กำลังสูญเสียรายได้


ข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายนพบว่า เน็ตฟลิกซ์ก็สูญเสียมูลค่าบริษัทไปกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 1.5 ล้านล้านบาท หลังจากยอดผู้ใช้งานรายเดือน (Subscriber) นั้นหายไปกว่า 200,000 คน เมื่อเทียบบกับต้นปี และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และยังต้องแข่งขันกับสตรีมมิ่งเจ้าอื่น ๆ ที่นำเสนอเนื้อหาของตนเองได้ไม่แพ้กับเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) 


ส่วนเมตา (Meta) ยังคงสูญเสียรายได้จากการโฆษณา เสียฐานลูกค้า เสียความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้มูลค่าบริษัทตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี และยังประสบปัญหากับการมาถึงของติ๊กตอก (TikTok) ที่เมตาพยายามเปลี่ยนทิศทางการใช้งานให้เหมือนแต่ก็กลายเป็นว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงอยู่ในตอนนี้


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและความคิดเห็นข้างต้นของพนังงานในบริษัทเหล่านี้เกิดขึ้นบนช่องทางออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นกระทู้แลกเปลี่ยนความเห็นแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous Forum) และเป็นความเห็นจากพนักงานเพียงบางส่วนในบริษัทเท่านั้น


ที่มาข้อมูล BlindCNBCBBC

ที่มารูปภาพ Unsplash


ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง