สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล 'ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2021-22' รอบแบ่งกลุ่ม A,B,C,D นัดสี่

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดที่ 4 เมื่อวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2021 ที่สนาม ซานซิโร่ เป็นการเจอกัน ระหว่าง "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ที่ลงเตะ 3 นัด แพ้รวดยังไม่มีคะแนน รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน "มังกร" ปอร์โต้ ทีมจากโปรตุเกส ที่ลงเตะไป 3 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 4 แต้ม รั้งอันดับ 3 ของตาราง 

GOAL นาทีที่ 6 ทีมมังกร ได้ประตูออกนำเร็ว 1-0 จากจังหวะตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษของ มาร์โก กรูยิช ก่อนจะจ่ายบอลไปทางด้านซ้ายให้กับ หลุยส์ ดิอาซ ในกรอบเขตโทษ แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาเข้าไป และเป็นเพียงแค่ประตูเดียวที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก

GOAL นาทีที่ 61 ปีศาจแดงดำ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคิก อิสมาเอล เบนนาเซอร์ ยิงไปแฉลบกำแพงทีมเยือนมาถึง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ล้มตัวยิงแต่ยังไปติดเซฟของ ดีโอโก้ คอสต้า บอลทะลักไปด้านซ้าย ปิแอร์ คาลูลู กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่ที่หน้าประตู บอลไปโดนขา ชานเซล เอ็มเบมบ้า เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม 90 นาที เอซี มิลาน เสมอ ปอร์โต้ 1-1 คว้าแต้มแรกในทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่ยังรั้งอันดับสุดท้ายของตาราง ส่วนทีมจากแดนฝอยทอง มี 5 แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับสอง 

11 รายชื่อผู้เล่นคนแรกของทั้งสองทีม

เอซี มิลาน (ระบบการเล่น 4-2-3-1) : ชิเปรียน ตาตารูซานู (ผู้รักษาประตู) - ดาวิเด้ คาลาเบรีย, ฟิกาโย่ โทโมริ, อเลสซิโอ โรมันโญลี่(กัปตันทีม), เตโอ แอร์กน็องเดซ -  ซานโดร โตนาลี, อิสมาเอล เบนนาเซอร์ - อเล็กซิส เซลเลเมเคอร์, บราฮิม ดิอาซ, ราฟาเอล เลเอา - โอลิวิเยร์ ชิรูด์ 

ปอร์โต้ (ระบบการเล่น 4-4-2) : ดีโอโก้ คอสต้า (ผู้รักษาประตู)- เจา มาริโอ, เปเป้(กัปตันทีม), ชานเซล เอ็มเบมบ้า, ไซดู ซานูซี่ - โอตาวีโอ, มาร์โก กรูยิช, แซร์โจ้ โอลิเวียร่า, หลุยส์ ดิอาซ - เมห์ดี้ ทาเรมี่, อีวานิลสัน

-------------------------------

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดที่ 4 เมื่อวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2021 ที่สนามแอนฟิลด์ เป็นการเจอกัน ระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่นัดก่อนรายการนี้บุกไปเฉือนชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2 ทำให้เจ้าบ้านรั้งจ่าฝูงของตารางมี 9 แต้ม เกมนี้กลับมาเปิดรังพบกับทีม "ตราหมี" อีกครั้ง โดยทีมเยือนเวลานี้รั้งรองจ่าฝูงจากการมี 4 แต้ม หลังลงสนามไปแล้ว 3 เกม มีแต้มตามหลังทีมจากเมอร์ซี่ไซด์อยู่ 5 แต้ม 

GOAL นาทีที่ 13 หงส์แดง ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะบุกมาทางด้านขวา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายคืนมาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลมาที่หน้าประตู ดีโอโก้ โชต้า ที่อยู่ระหว่างแนวรับทีมเยือนและไม่ล้ำหน้า โถมตัวเข้ามาโหม่งตุงตาข่าย

GOAL นาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล ได้ประตูหนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะขึ้นเกมมาทางด้านซ้าย ซาดิโอ มาเน่ ลากบอลเข้ามาให้สั้นๆ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่อยู่ตรงกลาง แล้วจ่ายไปด้านขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าประตู มาเน่ วิ่งมาจิ้มด้วยซ้ายเข้าไป จากนั้น นาที 37 ตราหมี มาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ เฟลิเป้ ไปทำฟาวล์ มาเน่ โดนใบแดงไล่ออกสนามไป จบครึ่งแรก เจ้าถิ่น นำ 2-0 

เกมครึ่งหลังอีก 45 นาที เป็นลิเวอร์พูลที่ครองเกมบุกได้มากกว่า 74 เปอร์เซ็นต์ แต่เพลาเกมบุกลงไปทำให้มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง จากโอกาสลุ้นทำประตู 10 ครั้ง ส่วนทีมเยือนมีโอกาสเพียง 4 ครั้ง และไม่เข้ากรอบเลย สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-0 คว้าชัย 4 เกมรวด มีเพิ่มเป็น 12 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่มบีเป็นที่แน่นอนแล้ว พร้อมกับผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส ส่วน ตราหมี มี 4 แต้มเหมือนเดิม หล่นลงมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง 

11 รายชื่อผู้เล่นคนแรกของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (ระบบการเล่น 4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู) - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กํปตันทีม) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่

แอตเลติโก มาดริด (ระบบการเล่น  3-5-2 ) : ยาน โอบลัค (ผู้รักษาประตู) - เฟลิเป้, โฮเซ่ คิเมเนซ, มาริโอ เอร์โมโซ่ - คีแรน ทริปเปียร์,อังเคล คอร์เรอา, โรดริโก้ เด ปอล, โกเก้, ยานนิค การ์ราสโก้ - ชูเอา เฟลิกซ์, หลุยส์ ซัวเรซ

-------------------------------

ผลการแข่งขันทั้งหมดในวันเดียวกันมีดังนี้