สรุปดราม่าครบถ้วน เมสซี่ฉุนโดนเปลี่ยนตัว-เอ็มบัปเป้โดนแฟนตัวเองโห่หนัก

คีเลียน เอ็มบัปเป้ ถูกแฟนบอลปารีส แซงต์-แชร์กแมง โห่อีกครั้ง สำหรับเกมการประเดิมสนามในบ้านของลิโอเนล เมสซี่ เมื่อคืนที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564) ทั้งนี้ชื่อของดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสเจอเสียงโห่ครั้งแรกหนึ่งชั่วโมงก่อนเกมตอนที่มีการประกาศรายชื่อผู้เล่นตัวจริงอย่างเป็นทางการสำหรับเกมกับลียงจากบรรดากองเชียร์ที่เข้าสนามเร็ว และเมื่อชื่อของเจ้าของแชมป์โลกถูกประกาศอีกครั้งก่อนคิกออฟ เจ้าตัวก็เจอการทักทายด้วยเสียงโห่อีกครั้งจากผู้ชมเต็มความจุสนาม น่าแปลกที่ผู้ประกาศข่าวของ Amazon Prime พยายามที่จะอ้างว่าไม่มีเสียงโห่สำหรับดาวเตะที่เกิดในปารีสรายนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงปรบมือเล็กน้อยสำหรับเอ็มบัปเป้ผู้ซึ่งได้รับการต้อนรับด้วยเสียงโห่เช่นกันสำหรับเกมในบ้านครั้งก่อนของเปแอสเชที่ถล่มแกลร์มงต์  4-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มีความไม่พอใจที่ชัดเจนในหมู่ผู้สนับสนุนของทีมเกี่ยวกับการตัดสินใจของเอ็มบัปเป้ที่จะไม่เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร นักเตะวัย 22 ปีรายนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเก้าเดือนสุดท้ายของข้อตกลง และจนถึงขณะนี้ก็ยังปฏิเสธที่จะจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ แม้ว่าประธานสโมสรอย่างนัสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ จะต้องการให้เขาต่อสัญญาก็ตาม ทั้งนี้เปแอสเชปฏิเสธข้อเสนอจากเรอัล มาดริด สองครั้งสำหรับเอ็มบัปเป้ซึ่งเข้าใจกันว่าฝันที่จะเล่นให้กับทัพลอส บลังกอส โดยครั้งที่สองเชื่อว่าเกิน 170 ล้านปอนด์

ยังมีประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงเมื่อเมสซี่ปฏิเสธที่จะจับมือกับเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หลังจากถูกเปลี่ยนตัว ในเกมนี้ที่เปแอสเช พลิกจากตามหลังกลับมาเอาชนะลียงและเป็นเกมที่เป็นการประเดิมสนามสำหรับเกมในบ้านของเขา ในขณะที่คู่แข่งตลอดกาลของเขาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แทบไม่เสียเวลาในการทำให้แมนเชสเตอร์เป็นอาณาจักของเขาอีกครั้งหลังย้ายจากยูเวนตุสไปยังแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์กลับแตกต่างออกไปในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในกรุงปารีส เมสซี่เดินทางมาถึงสโมสรในสภาพที่ขาดความฟิตเล็กน้อยหลังย้ายออกจากบาร์เซโลน่าแบบสุดช็อค และแข้งวัย 34 เพิ่งจะได้ออกสตาร์ทครั้งแรกในเกมเปิดหัวแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ 15 กันยายน 2564 ในเกมเสมอกับคลับ บรูช  1-1

เดือนกว่าๆ หลังจากเปิดตัวในปารีส ในที่สุด เมสซี่ ที่ได้รับการต้อนรับราวกับฮีโร่ก็ปรากฏตัวครั้งแรกที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ โดยออกสตาร์ทในแนวรุกร่วมกับเนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซึ่งเมสซี่ออกสตาร์ทในตำแหน่งหมายเลข 10 โดยมีเนย์มาร์อยู่ทางซ้าย อังเคล ดิ มาเรีย ทางขวา และเอ็มบัปเป้เป็นกองหน้า แข้งวัย 34 เป็นหัวใจสำคัญในเกมบุกของเปแอสเชอีกทั้งมีโอกาสสำคัญหลายครั้งโดยเฉพาะในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่เนย์มาร์ลากขึ้นมาทางซ้ายก่อนตัดเข้าในดึงบอลย้อนหลังให้เมสซี่ สอดมาซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบ 6 หลาแบบไร้ตัวประกบติดเซฟ แอนโธนี่ โลเปส แบบเหลือเชื่อ และอีก 6 นาทีต่อมาคราวนี้จากฟรีคิกระยะราว 30 หลาที่เมสซี่วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งข้ามกำแพงพุ่งไปชนสามเหลี่ยมเสาไกลเด้งออกหลัง และปรากฏว่าครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้

ครึ่งหลังนาทีที่ 54 ปรากฏว่าทีมเยือนอย่าง ลียง ทะยานออกนำ 1-0 จากบอลยาวเปลี่ยนแกนมาทางฝั่งซ้าย คาร์ล โตโก เอก็อมบี้ ลากกินแดนขึ้นมาก่อนปาดเข้าเขตโทษให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาแปด้วยซ้ายยัดเสาแรกผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ตุงตาข่าย แต่ต่อมานาทีที่ 63 เปแอสเช ก็มาตามตีเสมอเป็น 1-1 จากความผิดพลาดของ มาโล กัสโต้ ที่ไปทำฟาล์วเนย์มาร์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจุดโทษทันที และเนย์มาร์ก็ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาด

สำหรับตัวเมสซี่นั้นจะเห็นว่าเจ้าตัวรู้สึกเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งหลัง แต่รู้สึกประหลาดใจและไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นหมายเลข 30 ของเขาปรากฏขึ้นมาในนาทีที่ 75 เมื่อโปเช็ตติโน่ตัดสินใจเปลี่ยนเขาออกและให้อัชราฟ ฮาคิมี่ ลงมาแทน เมสซี่รู้สึกผิดหวังขณะเดินออกจากสนามและปฏิเสธที่จะจับมือกับโปเช็ตติโน่ในตอนที่อดีตกุนซือสเปอร์สเข้ามาจับมือด้วย เขาดูงุนงงกับการตัดสินใจของโปเช็ตติโน่ และยักไหล่ใส่ผู้จัดการทีมขณะพูดคุยกันข้างสนามตอนเปลี่ยนตัว ความรู้สึกสับสนลามไปตอนนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองที่จะเห็น เลอันโดร ปาเรเดส เพื่อนร่วมชาติ และอดีตเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่าอย่าง ราฟินญ่า ที่ดูประหลาดใจกับการตัดสินใจดังกล่าวเช่นกัน

ในที่สุดแล้วเปแอสเชก็มาได้ประตูชัย  นาทีที่ 90+4 จากจังหวะทางซ้ายของเอ็มบัปเป้ที่หยอดบอลเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลให้ เมาโร อิคาร์ดี้ หลุดกับดักล้ำหน้าลอยมาโขกในกรอบ 6 หลาส่งบอลซุกก้นตาข่ายงดงาม ทำให้เปแอสเชเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยชัยชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ในลีก เอิง และในช่วงที่อิคาร์ดี้ทำประตูชัยนี่เอง ก็มีคนจับสังเกตว่า เมสซี่ดูไม่ค่อยดีใจนักตอนตัวสำรองเพื่อนร่วมชาติโหม่งให้เปแอสเชในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมสซี่ไม่ได้ดูด้วยซ้ำตอนเอ็มบัปเป้ครอสบอลมาให้อิคาร์ดี้โหม่งประตูชัยและคว้า 3 แต้มเต็มให้ทีม ในขณะที่คนอื่นๆ บนม้านั่งสำรองรอบตัวเขากระโดดตัวลอยฉลองประตู แต่เมสซี่ใช้เวลาหลายวินาทีกว่าจะลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา จากนั้นเขาก็ปรบมือให้เบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงเป็นคนแรก และแน่นอนว่าปฏิกิริยาของเขาต่อประตูชัยของเมสซี่บ่งบอกได้ดีถึงอารมณ์ของเขา ณ ตอนนั้นว่าหงุดหงิดแค่ไหน โดยหลังเกม โปเช็ตติโน่ เผยว่าที่ต้องเปลี่ยนเมสซี่ออกเพื่อปกป้องเขาสำหรับเกมต่อไปในอนาคต

“ผมตัดสินใจถอดลีโอออกเพื่อปกป้องเขาจากอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น เรามีเกมสำคัญรออยู่ และเราต้องการปกป้องเขา” เขาอธิบาย “นี่คือการตัดสินใจที่เราทำเพื่อประโยชน์ของทีม ทุกคนรู้ว่าเรามีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เราต้องตัดสินใจ บางครั้งมันอาจจะดึงดูดความสนใจ บางครั้งอาจน้อยกว่านี้” หลังจากนั้น เมสซี่ก็บอกผมว่าเขาโอเคกับการตัดสินใจดังกล่าว