TNN online เปิดประวัติ 'วรวุธ ศรีมะฆะ' หลังได้รับภารกิจรีเทิร์นกุมบังเหียนช้างศึกU23

TNN ONLINE

กีฬา

เปิดประวัติ 'วรวุธ ศรีมะฆะ' หลังได้รับภารกิจรีเทิร์นกุมบังเหียนช้างศึกU23

เปิดประวัติ 'วรวุธ ศรีมะฆะ' หลังได้รับภารกิจรีเทิร์นกุมบังเหียนช้างศึกU23

ทีมข่าว TNNSPORTS ขอพาแฟนฟุตบอลไปทำความรู้จักและเช็กประวัติตั้งแต่เป็นสมัยนักเตะของโค้ชโย่งแบบคร่าวๆ หลังได้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดยู 23 ปี คนใหม่


วันนี้ (25 ส.ค. 64) เป็นที่ทราบกันแน่ชัดแล้วสำหรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คนใหม่ โดยทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง วรวุธ ศรีมะฆะ หรือที่รู้จักกันในนาม "โค้ชโย่ง" เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่คนใหม่ พร้อมกับ โชคทวี พรหมรัตน์ ที่จะทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ซึ่งงานแรกคือการเตรียมทีมลงเล่นฟุตบอลยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อความหวังที่จะเข้าไปโลดแล่นในรอบสุดท้ายต่อไป


ทีมข่าว TNNSPORTS ขอพาแฟนฟุตบอลไปทำความรู้จักและเช็กประวัติตั้งแต่เป็นสมัยนักเตะของโค้ชโย่งแบบคร่าวๆกันอีกครั้ง


วรวุธ ศรีมะฆะ ปัจจุบันอายุ 49 ปี กำลังจะอายุครบ 50 ปี ในช่วงสิ้นปีนี้ เจ้าตัวเป็นชาวจังหวัดสงขลาโดยกำเนิด จบการศึกษามัธยมปลาย ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ก่อนจะเดินหน้าสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพ เป็นนักเตะของสโมสรธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่อายุ 18 ปี เล่นในตำแหน่งกองหน้า อยู่กับทีมจนถึง พ.ศ.2538 กวาดแชมป์มากมายทั้ง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย , ไทยลีก 4 สมัย , ควีนส์ คัพ 2 สมัย และ คลับ เอเชียน แชมเปี้ยนส์คัพ อีก 1 สมัย ด้วยความโดดเด่นของการทำประตู และมีทีเด็ดที่ลูกกลางอากาศจากรูปร่างที่สูงใหญ่ ทำให้ฟอร์มไปเตะตา บีอีซี เทโร ศาสน (โปลิศ เทโร ในปัจจุบัน) คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2539


เจ้าโย่ง ยิงกระจายให้กับ เทโร จนพาทีมคว้ารองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์ไทยลีก 2 สมัย อยู่กับทีมยาวนาน 8 ปี เป็นดาวซัลโวในปี 1997 และ 2001-2002 ก่อนจะโบยบินไปเล่นให้ บิน ดินห์ ในเวียดนาม (2004-2005) และ เกลันตัน ของมาเลเซีย ระหว่างปี 2005-2006 ก่อนที่จะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งกับ ชลบุรี เอฟซี (2007) , ศุลกากร (2008) กระทั่งแขวนสตัํดอย่างเป็นทางการในปี 2009 กับ จุฬา ยูไนเต็ด


ส่วนผลงานในนามทีมชาติไทยฐานะนักเตะ ลงเล่นระหว่างปี 1991-2002 ทำได้ 29 ประตู จาก 63 นัด คว้าแชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย , อาเซียน คัพ (ซูซูกิ คัพ) 3 สมัย , อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ และ คิงส์คัพ อีก 2 หน ด้วยกัน


วรวุธ เริ่มงานโค้ชครั้งแรกในปี 2010 กับ ปทุมธานี ยูไนเต็ด ต่อด้วย สงขลาฯ ในปี 2011 กระทั่งผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันคือการพา สุพรรณบุรี เอฟซี จบรองแชมป์ ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2) ปี 2012 เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก แต่ไม่ได้ทำงานกับทีมต่อ โดยเลือกไปอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี ในฐานะผู้ช่วยฯ ปี 2013-2014 ก่อนจะกลับมา สุพรรณบุรี อีกครั้งในปี 2015 ซึ่งระหว่างปี 2015-2017 เจ้าตัวคอยรักษาการณ์ขึ้นคุมทีมหากโค้ชต่างชาติโดนปลด แต่ก็มีผลงานสุดเยี่ยมด้วยการพาทีมจบอันดับ 3 ในปี 2015 ได้สิทธิ์เล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็โดนตัดสิทธิ์เนื่องจากสนามไม่ผ่านคลับไลเซนซิ่ง


จากนั้น เข้าสู่สนามโค้ชทีมชาติ เริ่มจากการเป็นโค้ชยู 23 ปี ระหว่าง 2016-2017 ก่อนจะขึ้นไปทำทีมชุดใหญ่ในฐานะผู้ช่วยปี 2017 แต่เพียงไม่นานก็ถูกส่งลงมาคุมทีมชุดเล็กยู 23 ปี อีกครั้ง ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ต้องมาออกจากตำแหน่งในปี 2018 หลังจากที่พาทีมตกรอบแรกฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์ ที่ อินโดนีเซีย นอกจากนี้เขายังเคยลงไปดูทีมชาติไทยชุดยู 21 ปี ช่วงสั้นๆบางครั้ง สามารถคว้าแชมป์ 4 เส้า เนชั่นส์คัพ ในปี 2016 มาได้อีกด้วย


หลังอำลาทีมชาติไทยชุดยู 23 โค้ชโย่ง กลับมาลุยสนามไทยลีกต่อ แต่เลือกไปทำทีมในระดับไทยลีก 2 กับ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ในปี 2019 แต่ผลงานไม่ดีนัก ออกจากตำแหน่งก่อนจบฤดูกาล กระทั่งไปคุม ศุลกากร ในปี 2020 แต่ก็อยู่ได้เพียงเลกเดียว ตัดสินใจไปรับงานกับ ศรีสะเกษ เอฟซี ก่อนที่จะนำทีมตกชั้นสู่ไทยลีก 3 และว่างงานนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งกลายเป็นตัวเลือกแรกของสมาคมฟุตบอลฯ ในการแต่งตั้งให้คุมทัพ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชียอีกครั้งในวันที่ 25 ส.ค. 64