ลิเวอร์พูล' ร่วงเจ๊าจืด 'มาดริด', 'แมนซิตี้' ย้ำชัย 'ดอร์ทมุนด์' ศึกชปล. ก่อนรองฯ
เรอัล มาดริด และ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นสองทีมสุดท้ายที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึก ชปล. ฤดูกาลนี้
วันนี้ (15 เม.ย. 64) ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง ที่สนาม แอนฟิลด์ เป็นการพบกันของ ลิเวอร์พูล เฝ้ารังรับการมาเยือน เรอัล มาดริด โดยผลการแข่งขันในนัดแรก มาดริด เป็นฝ่ายเอาชนะ ลิเวอร์พูล มาได้ก่อน 3-1
นัดนี้ หงส์แดง จัดทัพโดยให้ ซาดิโอ มาเน่ , โม ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นสามประสานกองหน้า ส่วน ดิโอโก้ โชต้า เป็นตัวสำรองทีเด็ด ขณะที่ ราชันชุดขาว ส่ง มาร์โก อาเซนซิโอ , คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์ คอยล่าประตู
ตลอด 90 นาที แม้ ลิเวอร์พูล จะทำได้ดีกว่าทั้งจังหวะลุ้นทำประตูและเปอร์เซ็นต์การครองบอล แต่ก็ไม่สามารถทะลวงตาข่าย เรอัล มาดริด ได้ ทำให้จบเกมที่สกอร์ 0-0 รวมผลสองนัด มาดริด เอาชนะ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ เชลซี ต่อไป
------------------------
อีกคู่ที่สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เป็นทางด้านของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เฝ้ารังรับการมาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งผลนัดแรก ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะมาได้ 2-1
การจัดทัพ ดอร์ทมุนด์ ส่ง อังส์การ์ คเนาฟฟ์ ,เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ และ มาร์โก รอยส์ ลงล่าตาข่าย ส่วน ซิตี้ ส่ง เควิน เดอ บรอยน์ , แบร์นาโด ซิลวา และ ริยาด มาห์เรซ เป็นตัวทีเด็ด ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง และ กาเบรียล เชซุส นั่งสำรองข้างสนาม
ตลอดการแข่งขัน เกมเป็นไปอย่างสนุก โดยเจ้าบ้านมาขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาที 15 จากการซัดของ จู๊ด เบลลิงแฮม ซึ่งหากจบที่สกอร์นี้ ดอร์ทมุนด์ จะเข้ารอบทันทีด้วยกฏอเวย์โกล แต่ แมนฯ ซิตี้ ไม่ยอม มายิงสองประตูรวดในครึ่งหลัง จากจุดโทษของ มาห์เรซ ในนาที 55 ทำให้ตีเสมอ 1-1 กระทั่ง ฟิล โฟเด้น สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยให้ เรือใบสีฟ้า ในนาที 75 ทำให้จบเกม แมนฯ ซิตี้ ย้ำชัยที่สกอร์ 2-1 รวมผลสองนัด ชนะ 4-2 ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะไปพบกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง