เจาะ 4 ประเด็นน่าสนใจ! บาเยิร์นคว้าแชมป์ 'ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก' สุดยิ่งใหญ่

วันนี้ (24 ส.ค. 63) จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่าแชมป์ปีนี้ ตกเป็นของ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมแห่งบุนเดสลีกา ที่คุมทัพโดย ฮันซี่ ฟลิค หลังเบียดเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ของ โธมัส ทูเคิ่ล 1-0 อย่างหวุดหวิด จากประตูชัยของ คิงสลี่ย์ โกมัน เมื่อเกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

แม้ตลอด 90 นาที จะมีประตูเกิดขึ้นแค่ลูกเดียว แต่แฟนบอลหลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นอีกหนึ่งแมตช์นัดชิงคุณภาพ เนื่องจากทั้งสองทีมสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย ไม่มีใครยอมใคร ซึ่งจากความผิดพลาดแค่เพียงครั้งเดียวตลอดทั้งเกม ก็นำมาสู่ชัยชนะและแชมป์สมัยที่ 6 ของ เสือใต้ อย่างยิ่งใหญ่

TNNSPORTS ขอนำแฟนๆไปดูว่า 4 ประเด็นร้อนในเกมนัดชิงคู่นี้ มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

ประเด็นแรก : สุดท้ายแล้วบอลระบบก็ชนะบอลดารา

เป็นสวครามรอบชิงของบอลระบบ และ บอลดารา อย่างแท้จริง เนื่องด้วย เสือใต้ เป็นทีมที่มีระบบการเล่นสุดแข็งแกร่ง แม้จะไม่ได้มีนักเตะชื่อก้องโลกแบบช่วงก่อนหน้านี้ แต่พวกเขามีแบบแผนการเล่นอย่างชัดเจนทั้งเกมรับและเกมรุก มีส่วนผสมที่ลงตัว ส่วน เปแอสเช ก็ถือว่าเป็นอีกสโมสรที่นักเตะระดับท็อป 5 ของโลกอยู่ที่นี่ถึงสองคน ทั้ง เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่สุดท้ายแล้ว บอลที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจกัน เล่นตามแท็คติคของโค้ช ก็สามารถเบียดเอาชนะ บอลซูเปอร์สตาร์ไปได้ 1-0

ประเด็นที่สอง : ฮันซี่ ฟลิค ว่าที่ยอดกุนซือในอนาคต

เป็นสิ่งที่ต้องปรบมือให้จริงๆ สำหรับบอร์ดบริหารของบาเยิร์น หลังพวกเขาสั่งปลด นิโก้ โควัช ไปเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว และทำการแต่งตั้ง ฮันซี่ ฟลิค ผู้ช่วยฯ ขึ้นมาขัดตาทัพ ก่อนจะได้สัญญาถาวรในภายหลัง โดยเทรนเนอร์วัย 55 ปี ได้เข้ามาหล่อหลอมรวมใจลูกทีมที่สถานการณ์ในลีกเวลานั้นกำลังย่ำแย่สุดๆให้กลับมาฟื้นคืนชีพ รวมถึงปลุกชีพนักเตะหลายคนที่กำลังฟอร์มไม่ดี เช่น การนำ ดาวิด อลาบา มายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจนกลายเป็นกำแพงเหล็ก , เปลี่ยน เฌโรม บัวเต็ง จากกองหลังจอมรั่ว เป็น แนวรับสุดแกร่งข้อผิดพลาดน้อย , การปั้น อันฟอนโซ่ เดวี่ส์ ขึ้นแท่นว่าที่แบ็คซ้ายเบอร์ท็อปของโลก หรือจะขุด อิวาน เปริซิช และ ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ให้กลับมาฟอร์มแจ่ม จนแฟนๆเรียกร้องให้ทีมซื้อขาด ขณะที่ผลงานการคุมทัพทั้งหมด 36 เกม สามารถเอาชนะได้ถึง 33 นัด รวมทุกรายการ คิดเป็น 92 % เลยทีเดียว เชื่อเหลือเกินว่า ฟลิค กำลังจะขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ , เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ ซีเนดีน ซีดาน ได้แน่นอนในอนาคต

ประเด็นที่สาม : บาเยิร์น รับมือได้กับทุกคู่แข่งและรูปแบบเกม

พลพรรค เสือใต้ แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาดีจริงในปีนี้ และเล่นได้กับทุกคู่และทุกสถานการณ์ รวมถึงรูปแบบเกมที่ต้องเจอ ยามเจอทีมที่ต่ำชั้นกว่าอย่าง ลียง พวกเขาดาหน้าเปิดเกมถล่ม ก่อนยิงกระจายเละเทะ , การถล่ม บาร์ซ่า 8-2 ราคาบ ก็เป็นการชิงจังหวะ อาศัยความเด็ดเด็ดขาด รวมถึงฟุตบอลระบบในการโจมตี และปิดตาย ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรส สองดาราของบาร์ซ่า ที่สุดแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดคือรอบชิงชนะเลิศ กับ เปแอสเช แม้ทีมจากแดนน้ำหอมจะเตรียมตัวมารับมืออย่างดีแล้ว แต่ก็พลาดท่าให้จนได้ นอกจากนี้ เนย์มาร์ , คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ อังเคล ดิ มาเรีย ก็ถูกสั่งล็อคตาย จนแทบพลิกไม่ได้เลยนั่นเอง จากทั้งหมดที่วิเคราะห์มา คงชัดเจนแล้วว่า เสือใต้ดีจริง และรับมือได้กับทุกคู่แข่งและสถานการณ์จริงๆ

ประเด็นสุดท้าย : สถิติชนะ 100 % หลังรีสตาร์ของเสือใต้

บาเยิร์น มิวนิค จัดเป็นทีมที่ดีที่สุดของยุโรปในการกลับมาเตะหลังเบรกหนีไวรัสโควิด-19 เมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 15 นัด จากสามรายการที่ลงเล่น ทั้ง บุนเดสลีกา (9 นัด) , เดเอฟเบ โพคาล (2 นัด) และ ยูฟ่า แชเมปี้ยนส์ลีก (4 นัด) จึงทำให้ เสือใต้ คว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาลนี้ไปครองอย่างไม่ต้องสงสัย ทำผลงานดีที่สุดเหนือทุกทีมบนยุโรป ซึ่งแฟนๆคงต้องตามกันต่อไปว่า สถิติชนะรวดของทีมที่สานต่อไปถึงซีซั่นหน้าจะบวกเพิ่มไปอีกกี่นัด

และนี่คือ 4 ประเด็นน่าสนใจสำหรับนัดชิง ชปล. 2020 เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ที่สุดแล้วคงต้องยกนิ้วโป้งโตๆให้กับ บาเยิร์น มิวนิค พวกเขาสุดยอดและคู่ควรกับการเป็นแชมป์ยุโรปของฤดูกาลนี้จริงๆ

เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บาเยิร์น' ได้โกมันโขกชัยเชือด 'ปารีสฯ' 1-0 ครองแชมป์ยูฟ่าฯ สมัย6