ส่องผลงาน “เสกสรร” ก่อนดวลเดือด “แฮร์ริสัน” 7 ก.ย.นี้

สำหรับ "เสกสรร" ถือเป็นอีกหนึ่งนักสู้ที่ได้รายการ ONE ลุมพินี ช่วยพลิกชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเข้ามาร่วมแข่งขันในปี 2566 โดยปัจจุบันกวาดโบนัสไม่รวมค่าตัว เข้าบัญชีไปแล้วมากกว่า 3 ล้านบาท รวมถึงยังคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครอง วันนี้พาทุกท่านย้อนดูผลงานอันน่าทึ่งของ "เสกสรร" ในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาบู๊แหลกอีกครั้งในศึก ONE 168 เช้าวันเสาร์ที่ 7 กันยายนนี้ 

"เสกสรร" เป็นตัวในศึก ONE ลุมพินี นัดปฐมฤกษ์ เมื่อเดือน ม.ค.66 และสามารถแจ้งเกิดได้ทันที หลังโชว์ความใจสู้สมฉายา “คนไม่ยอมคน” ยืนแลกหมัดอย่างดุเดือดกับ “ไทสัน แฮร์ริสัน” นักสู้จากออสเตรเลีย ที่มีสรีระสูงใหญ่กว่าตลอด 3 ยก จนสามารถเอาชนะไปได้แบบหวุดหวิดด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ พร้อมรับโบนัสพิเศษ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) จากบิ๊กบอส "ชาตรี" อย่างไม่คาดคิด  

ไฟต์ที่ 2 เกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 9 เมื่อเดือน มี.ค.66 โดย “เสกสรร” ยังคงเดินหน้ามอบความเดือดปรอทแตกให้แฟนมวยทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง หลังเป็นฝ่ายเดินบู๊ชวนทะเลาะ “ซิลวิอู วิเตซ” มวยหมัดจากโรมาเนีย อย่างเมามันตลอด 3 ยก ก่อนจะเข้าวินไปแบบสุดมันด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมจูงมือกันคว้าโบนัสแพ็กคู่ หลังทำผลงานเข้าตาบิ๊กบอส “ชาตรี” ด้วยกันทั้ง 2 คน

ไฟต์ต่อมาของ “เสกสรร” ในศึก ONE ลุมพินี 14 เดือน เม.ย.66 แม้จะต้องโคจรมาเจอกับด่านหินอย่าง “Clubber” ฌอน แคลนซี นักสู้จากไอร์แลนด์ ดีกรีแชมป์โลก WBC มวยไทย ผู้เคยผ่านประสบการณ์บนสังเวียน ONE มาแล้วถึง 2 ไฟต์ แต่ “เสกสรร” ไม่สนใจ ขอเดินหน้าบู๊แหลกตามสไตล์ถนัด ก่อนจะได้จังหวะฟันศอกเรียกแผลแตกฉกรรจ์ จนแพทย์สนามต้องสั่งยุติการแข่งขันในช่วงท้ายยกที่ 2 ประเดิมการเก็บชัยชนะแบบไม่ครบยก พร้อมพิชิตโบนัสมาครองเป็นไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน 

เสกสรร" ขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 4 ในศึก ONE ลุมพินี 22 เมื่อเดือน มิ.ย.66 เผชิญหน้ากับ "นาธาน เบนดอน" นักสู้ดีกรีแชมป์โลกมวยไทย WBC และแชมป์มวยไทย WBC อินเตอร์เนชันแนล จากสหราชอาณาจักร ซึ่งรูปเกมไฟต์นี้เริ่มต้นด้วยความตึงเครียด หลัง "เสกสรร" ถูก "นาธาน" เล่นงานอย่างหนักในช่วงยกแรก แต่ด้วยแรงเชียร์จากแฟนๆ นับพันในสนาม ทำให้ "เสกสรร" สามารถฮึดสู้ พลิกกลับมาแซงชนะไปได้อย่างสุดระทึก พร้อมรับดับเบิลโบนัส 7 แสนบาท เป็นรางวัลสำหรับการทำผลงานอันยอดเยี่ยม  

 “เสกสรร” หวนกลับมาขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 5 พบกับ “ไอแซค อารายา” จอมบู๊รุ่นใหญ่จากสเปน ในศึก ONE ลุมพินี 29 เมื่อเดือน ส.ค.66 โดยไฟต์นี้ “เสกสรร” ได้ระเบิดฟอร์มขั้นเทพ ปิดเกมน็อก “ไอแซค” อย่างเด็ดขาดในช่วงต้นยกสอง จนทำให้ได้รับสัญญานักกีฬา ONE มาครองเป็นคนที่ 5 ของรายการในขณะนั้น พร้อมคว้าโบนัสไปครองเป็นไฟต์ที่ 5 ติดต่อกัน

“เสกสรร” ประเดิมโชว์ฝีมือในฐานะนักกีฬา ONE ด้วยการพบกับ “อาเมียร์ นาซิรี” นักสู้สัญชาติอิหร่านเชื้อสายมาเลเซีย ในศึกใหญ่นัดประวัติศาสตร์ ONE ลุมพินี 34 เมื่อเดือน ก.ย.66 โดยไฟต์นี้ “เสกสรร” ยังคงรักษาฟอร์มอันร้อนแรงเอาไว้ได้ด้วยการลุยถล่ม “อาเมียร์” ตั้งแต่เสียงระฆังดังก่อนจะคว้าชัยไฟต์ที่ 6 ด้วยแต้มเอกฉันท์ แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย 

 ไฟต์ที่ 7 “เสกสรร” ได้โอกาสเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีรายการใหญ่ ในศึก ONE Fight Night 16 เมื่อเดือน พ.ย.66 พบกับ “คาริม เบนนุย” มวยดุจากแอลจีเรีย ซึ่ง “เสกสรร” ก็ไม่พลาดที่จะประเดิมแต้มชัยแรกใน ONE Fight Night ได้ทันที หลังจัดการขนอาวุธหนัก เข้าเล่นงานเกมวงใน “คาริม” อย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นที่เกือบจะปิดเกมได้ในยกสุดท้าย ก่อนจะเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 

"เสกสรร" กลับมาสาดความมันให้แฟน ๆ อีกครั้งในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 เมื่อเดือน ธ.ค.66 พบกับ "ริเวอร์ แดซ" นักสู้ชาวออสเตรเลีย ซึ่งไฟต์นี้เป็นอีกครั้งที่ "เสกสรร" ต้องงานเข้าตั้งแต่ยกแรก เมื่อถูก "ริเวอร์" ใช้พลังสดเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยใจสู้ไม่ยอมแพ้ บวกกับลูกประสบการณ์ จึงทำให้ “เสกสรร” เอาตัวรอดเบียดชนะไปได้แบบใจหายใจคว่ำด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ และส่งผลให้ “เสกสรร” รักษาสถิติไร้พ่ายตลอดปี 2566 ด้วยชัยชนะ 8 ไฟต์ติดต่อกัน