'ปธ.เวลกาตะเซนได' ทำโครงการส่งต่อเสื้อแข่ง+ของสะสมให้เด็กไทยสร้างแรงบัลดาลใจ

วันนี้ (2 ม.ค. 65) โทโมฮิโร ซาซากิ ประธานสโมสรฟุตบอลเวลกาตะ เซนได (Vegalta Sendai) ทีมในเจลีก 2 ซึ่งเป็นแฟนคลับของทีมมาอย่างยาวนานก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุด มีประวัติเป็นนักสะสมเสื้อแข่งของทีมมาหลายปีและผูกพันจนไม่กล้าทิ้ง ซึ่ง ประธานซาซากิ รู้ดีว่ามีแฟนคลับตัวจริงแบบเดียวกับเค้าอีกหลายคน  ที่ประทับใจในเสื้อแข่งทุกชุด ทุกปี ซื้อเก็บไว้และทิ้งไม่ได้   

ขณะเดียวกัน ประธานซาซากิ ก็รู้ดีว่า ในประเทศไทย มีเยาวชนที่รักฟุตบอลและอาจไม่สามารถเข้าถึงเสื้อแข่งของทีมฟุตบอลอาชีพได้ โดยเฉพาะเสื้อแข่งของทีมในเจลีก ที่ขึ้นชื่อว่าราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ ของทีมฟุตบอลจากสโมสรต่างๆ ทั่วโลก  คือราคาตัวละประมาณ 4,000 บาท จึงตั้งโครงการพิเศษร่วมกับ โกชิ โอคุโบะ อดีตนักฟุตบอลของเวลกาตะ เซนได ซึ่งเล่นอยู่กับทีมต่อเนื่องกว่า 13 ปีและที่มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองเซนได ก่อนย้ายมาค้าแข้งในไทย ปัจจุบันสังกัด “บางกอก เอฟซี” ทีมหัวตาราง T3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งทั้งสองรู้จักกันมาอย่างยาวนานในฐานะแฟนคลับและนักเตะคนดังของทีม เพื่อขอรับบริจาคเสื้อแข่งของแท้ สภาพดี มีคุณค่าทางใจจากแฟนคลับเวลกาตะ เซนได ฝากให้ “โกชิ” มาส่งต่อให้เยาวชนในประเทศไทย

โครงการดีๆ เริ่มต้นในเกมเหย้าของ เวลกาตะ เซนได เมื่อหลายเดือนก่อน แฟนคลับหลายพันคนนำเสื้อแข่งปีต่างๆ ที่ตัวเองซื้อเก็บไว้มามอบให้เจ้าหน้าที่ทีม ด้วยความตั้งที่จะ “ส่งต่อ” ของรัก ของสะสม ให้ไปให้ถึงเด็กไทย ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น กลายเป็นข่าวใหญ่ของเมือง เพราะเสื้อแข่งกว่า 1,600 ตัวที่ซัก รีด พับ มาอย่างดีตามสไตล์คนญี่ปุ่น รวมทั้งของสะสมของประธานซาซากิเอง ถูกนำมากองรวมไว้แบบเกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้ว่าคงจะได้รับประมาณ 100-200 ตัวเท่านั้น   และถูกส่งต่อมาให้โกชิในเมืองไทยในเวลาต่อมา

เมื่อจบฤดูกาลเจลีก เจ้าหน้าที่ทีม เวลกาตะ เซนได นำโดย นาโอกิ ซูไก ซึ่งเป็นอดีตนักเตะชื่อดังของทีมและเคยร่วมเล่นในยุคเดียวกับ โกชิ เดินทางมาประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเสื้อทุกตัวส่งมอบให้เยาวชนด้อยโอกาสที่ “มูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก” หรือ Baan Dek Foundation ที่ จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ โกชิ ซึ่ง “บ้านเด็ก” เป็นพันธมิตรกับ ยูกิ ฟุตบอล อะคาเดมี่ ที่ โกชิ ตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ มากว่า 2 ปีอยู่แล้ว

ในวันนั้น เด็กทุกคนได้รับเสื้อแข่ง และสวมทันทีเพื่อลงเล่นฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน จนเป็นข่าวใหญ่ไปไกลถึงญี่ปุ่นให้แฟนคลับเจ้าของเสื้อได้ชื่นใจอีกครั้ง จนเกิดสัญญาทางใจจากประธานสโมสรและแฟนคลับ ว่าจะรวบรวมเสื้อแข่งของรัก ของสะสม มาส่งต่อให้เด็กไทยเช่นนี้ ทุกปี

เสื้อแข่งกว่า 1,600 ตัวจากทีมเจลีก 2 ในวันนั้นที่ได้ส่งผ่านไปถึงเด็กๆ ที่เชียงใหม่แล้ว ยังมีอีกหลายร้อยตัวที่ยังแจกจ่ายไม่หมดและพร้อมจะส่งต่อให้เด็กๆที่กรุงเทพฯ ในวันเด็กเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 นี้ ในกิจกรรมพิเศษของบางกอก เอฟซี โปรดติดตาม