ทำความรู้จักว่าที่ซูเปอร์สตาร์แบดมินตันไทยค่ายSM 'เอ็มเจ ศิวิช' ลูกชายกูรูบาสเกตบอลชื่อดัง

สวัสดีครับ พบกับ Inspire Connects สานต่อแรงบันดาลใจ คอลัมน์ที่จะพาแฟนๆไปพูดคุยกับคนเก่งในวงการกีฬาหลากหลายแง่มุม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬาหรือการดำเนินชีวิตของคุณ โดยฉบันี้เป็น ฉบับเดือน ก.ย. 65 ซึ่งตลอดทั้งปี 2022 ที่ผ่านมา เราพาทุกท่านไปคุยกับบุคคลหลายสายงานอาชีพ ทั้ง นักกีฬา , ผู้สื่อข่าว และแฟนกีฬา เรียกได้ว่าหลายๆท่านก็น่าจะได้แรงบันดาลใจกันพอสมควรอย่างแน่นอน

ครั้งนี้ ผม "นิก" ธีร์ธวัช กาญจน์วารีทิพย์ ขอพาทุกท่านไปคุยกับนักกีฬาดาวรุ่ง แบบดาวรุ่งจริงๆกันบ้าง เพราะน้องยังใช้คำนำหน้าว่า เด็กชาย อยู่เลย โดยน้องเป็นนักกีฬาแบดมินตัน ที่กำลังพัฒนาและผลักดันตัวเองขึ้นสู่ระบบเยาวชนของทีมชาติไทยในอนาคต จากการให้การสนับสนุนแบบเต็มที่ของคุณพ่อเอ๋ วัชรินทร์ จัตุชัย ผู้บรรยายและกูรูบาสเกตบอล จากทรูวิชั่นส์ของเรานี่เอง เรื่องราวของน้องน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัย 13 ปี มีอะไรที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านคอลัมน์ของเราฉบับนี้ได้อย่างมากเลยทีเดียว ว่าแล้ว....ไปคุยกับ "น้องเอ็มเจ" อีกหนึ่งเด็กมหัศจรรย์จากวงการขนไก่ไทยกันครับ

Q : สวัสดีคับ ขอบคุณน้องเอ็มเจ มากๆที่ให้เกียรติกับ Inspire connects สานต่อแรงบันดาลใจกับเรา อันดับแรกอยากให้แนะนำตัวให้เราได้รู้จักหน่อยครับ ?

เอ็มเจ : สวัสดีครับ! ผมชื่อ ด.ช.ศิวัช จัตุชัย ชื่อเล่นชื่อ เอ็มเจ (MJ) อายุ 13 ปีครับ ปัจจุบันผมเรียนที่ รร.สาธิต ชั้น ม.2 มศว.ประสานมิตร ทุนโควต้านักกีฬาแบดมินตันครับ ตอนนี้ผมเรียนหนังสือและก็เป็นนักกีฬาแบดมินตันของสโมสร SM Badminton ด้วยครับ

Q : ขอทราบที่มีถึงชื่อเอ็มเจ หน่อยครับ มีที่มาอย่างไร ? เอ็มเจ : MJ ย่อมาจากไมเคิ่ล จอร์แดนครับ พ่อผม (วัชรินทร์ จัตุชัย) เป็นแชมป์แฟนพันธุ์แท้บาสเกตบอล NBA เมื่อปี 2006 และพ่อก็ชอบจอร์แดนมากๆครับ ผมเกิดวันที่ 23 ซึ่งตรงกับเบอร์เสื้อของจอร์แดนด้วย พ่อผมเลยตั้งชื่อว่า MJ ที่ย่อมาจากไมเคิ่ล จอร์แดนครับ 

Q : เริ่มรู้จักกับแบดมินตันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงชอบกีฬาชนิดนี้ ? เอ็มเจ : ก่อนหน้านี้ผมเตะฟุตบอล เล่นบาสเกตบอล เล่นเทควันโด้ แต่ไม่ชอบสักอย่าง ผมมารู้จักแบดมินตันตอนผม 9 ขวบครับ มีวันนึงผมดูทีวีเห็นลุงตู่ตีแบดกับพี่เมย์ รัชนก แล้วมีท่าหยอดที่พี่เมย์หยอดใส่ลุงตู่ ผมเลยชอบกีฬาชนิดนี้ครับ (หัวเราะ) แถมผมได้ไปดูคลิปรายการ Super10 ตอนที่ไอดินมาออก เลยทำให้ผมอยากลองตีแบดดูครับ ทำให้พ่อเลยลองพาไปตีแบดดูตอน 9 ขวบ ผมว่ามันสนุกดีครับเลยตั้งใจเล่นตั้งแต่นั้นมา ผมชอบแบดมินตันเพราะมันได้อยู่กับตัวเอง ได้คิดเวลาตี ได้ออกกำลังกาย และได้แข่งขันกับตัวผมเองด้วยครับ มันสนุกเพราะการเล่นแบดมันต้องใช้ทั้งกำลัง ความเร็ว และสมองครับ

Q : เอาจริงๆคุณพ่อ เป็นอดีตนักบาสเกตบอลอาชีพ เป็นกูรู และผู้บรรยายบาสเกตบอล คุณพ่อเคยพยายามที่จะให้เราเอาดี หรือมุ่งทางบาสเกตบอลบ้างมั้ย ?

เอ็มเจ : เคยครับ แต่ก่อนคุณพ่อผมสอนบาสเกตบอลให้ผมครับ สอนตั้งแต่เลย์อัพ การชู้ต และสอนการกระโดด พ่อไม่กดดันให้ผมเล่นบาสเกตบอลเหมือนพ่อครับ แต่พ่อให้เล่นในกีฬาที่เราชอบ พอพ่อบอกแบบนั้นผมก็เลยไม่เล่นบาสเลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมได้วิธีการกระโดดของบาสเกตบอลมาใช้กับแบดมินตัน ซึ่งมันช่วยเสริมกันได้ครับ

Q : ผ่านการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับใดมาบ้าง ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร และรายการไหนที่ประทับใจที่สุด เพราะอะไร ? เอ็มเจ : หลายรายการเลนครับ ผ่านมาตั้งแต่กรมพละศึกษา, รายการของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย, รายการแบดเว็บ ก็มีชนะบ้างแพ้บ้าง ได้รางวัลบ้าง ไม่ได้อะไรเลยบ้าง ปะปนกันไปครับ แต่รายการที่ผมประทับใจที่สุดมีสองรางวัลครับ คือ รายการแข่งแบดมินตันของกรมพละศึกษา ผมได้รองชนะเลิศ และเป็นรางวัลแรกในชีวิตของผมด้วยครับ ส่วนอีกรายการคือ คัดตัวนักกีฬาแบดมินตันเข้าเรียนต่อมัธยมของ มศว.ประสานมิตร ผมภูมิใจเพราะผมได้ใช้แบดมินตันสร้างอนาคตทางการเรียนให้ผมครับ

Q : มองว่าการฝึกซ้อมกีฬาและเตรียมไปแข่ง มีความแตกต่างกับการเรียนในห้องแล้วเตรียมสอบอย่างไร ? เอ็มเจ : การฝึกซ้อมกับการเรียนผมว่ามันคล้ายๆกันนะ เพราะถ้าเราขยัน มีวินัย และมีความมุ่งมั่น เราก็จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการครับ เพราะกีฬากับการเรียนต้องใช้สิ่งเหล่านี้ แต่ผมจะสนุกกับการตีแบดมากกว่าครับ เพราะผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง (หัวเราะ) มันยากมากครับ

Q : แบ่งเวลาอย่างไรในการซ้อมกีฬาและการเรียน เพื่อให้มันอยู่ในเกณฑ์ที่ไปต่อกันได้ทั้งคู่แบบมีประสิทธิภาพ ? เอ็มเจ : ผมซ้อมแบดมินตัน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ วันละ 3 ชั่วโมง เลิกเรียนเสร็จผมจะนั่งรถไฟฟ้ามาหาพ่อ แล้วพ่อจะขับรถพาไปสโมสร ซ้อมตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงสองทุ่ม และถ้าวันอาทิตย์มีเวลาว่าง พ่อจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศออกกำลังกายอย่างอื่นด้วยครับ ส่วนการเรียนผมจะมีคุณแม่คอยช่วยดูแลเรื่องการบ้านครับ แม่จะคอยดูว่าผมต้องส่งการบ้านวิชาอะไร และขาดอะไร บางครั้งไม่ทันผมก็ขอให้แม่ช่วยทำให้บ้างครับ

Q : ไอดอลในการเล่นเเบดมินตัน (ไทยและโลก) อย่างละหนึ่งคน เพราะอะไร ? เอ็มเจ : ของไทยผมชอบพี่แมน บุญศักดิ์ พลสนะ ครับ พี่เค้าเก่งมากๆและเป็นมือหนึ่งในยุคนั้นที่ไม่มีใครเอาชนะได้เลย ผมเคยออกรายการนึงกับพี่แมน ผมถามพี่แมนว่าผมอยากเก่งเหมือนพี่แมน ผมต้องทำยังไง พี่แมนบอกว่าให้มีความมุ่งมั่นและมีวินัยครับ ถ้าเป็นระดับโลกผมชอบ หลิน ตัน เพราะ หลิน ตัน ตีแบดได้เก่งทุกรูปแบบ และไม่กลัวใครในสนามเลยครับ เป็นแชมป์มากมายบนโลกใบนี้ แถมเค้าเท่ห์อีกด้วยครับ ผมเลยชอบเขามากครับ

Q : คิดว่าทีเด็ดของตัวเองในคอร์ท คือตรงไหน ? เอ็มเจ : ผมคิดว่าน่าจะเป็นกระโดดเทคตบครับ ผมเอาวิธีการกระโดดเทคขาคู่ของบาสมาใช้กับแบด เลยเทคได้สูงครับ พ่อผมบอกว่าให้ไปเล่นบาสดีกว่า เพราะกระโดดได้ดี แต่ผมไม่ไปครับ

Q : ฝากอะไรถึงคนรุ่นเดียวกับเอ็มเจ ที่มองถึงการมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ?

เอ็มเจ : สำหรับน้องๆที่อยากจะมาตีแบดเพื่อเป็นนักกีฬา อยากให้มุ่งมั่น มีวินัย และมีเป้าหมายครับ เพราะการทำอะไรที่มีเป้าหมายมันจะทำให้เรามีความพยายามมากขึ้น ระหว่างทางมันอาจเบื่อบ้าง ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง เหมือนผมก็เคยเบื่อแบดบ้าง หาอะไรอย่างอื่นๆทำบ้างเพื่อแก้เบื่อ แล้วก็กลับมาสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และตั้งใจซ้อมต่อไปครับ

Q : ฝากช่องทางการติดตาม และผลงาน (คุณพ่อด้วยก็ได้นะครับ) อยากบอกหรือขอบคุณใครผ่านสื่อ เชิญเลยครับ ? เอ็มเจ : ช่องของผมผมมีเฟซบุ๊ก MJ Siwat ส่วน YouTube ชื่อช่อง MJ Siwat เหมือนกันครับ ถ้าเป็นของคุณพ่อจะมีแฟนเพจ NBA Thailand , YouTube ช่อง NBA Thailand Inside และ TikTok ช่อง NBA Thailand ครับ ขอบคุณทุกคนมากๆเลยครับ

และนี่ก็คือ น้องเอ็มเจ นักแบดมินตันดาวโรจน์อนาคตไกลอีกคนหนึ่ง เราคงต้องมาจับตาดูกันว่าเด็กน้อยวัย 13 ปี ลูกชายของ วัชรินทร์ จัตุชัย คนนี้ จะพัฒนาตัวเองและก้าวขึ้นมาเป็นความหวังวงการขนไก่ไทยในอนาคตได้หรือไม่ ?

เรียบเรียงโดย : นิก ธีร์ธวัช