สรุปดรามา "รีวิวบุฟเฟต์" แอดมินกลุ่มดังเบ่งขอกินฟรี ไม่ให้ขู่แบนร้าน

ภาพประกอบจาก Wisdom International Buffet

วันนี้ (14 ก.ย.64) เกิดเป็นกระแสดรามาอันร้อนแรงของวงการรีวิวบุฟเฟต์ เมื่อแอดมินกลุ่มบุฟเฟต์ในเฟซบุ๊ก ไปขอรีวิวร้านบุฟเฟต์ดังสยามสแควร์วัน โดยได้คูปองมา 2 ใบ แต่อ้างทีมงานมี 4 คน โดยขอกินฟรีเพิ่มอีก 2 คน แลกกับถ่ายรีวิวร้าน โดยระบุ "รีวิวคือการมาทานแล้วคนทานไม่เสียเงิน" แต่ทางร้านปฏิเสธข้อเสนอ และโดนแอดมินคนดังกล่าวข่มขู่ว่าจะแบนร้าน โดยวันนี้จะสรุปประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น ดังนี้

1.เพจเฟซบุ๊กร้าน Wisdom International Buffet ดังกล่าว ได้ประกาศชี้แจงกรณีโดนข่มขู่ว่าจะ “แบนร้านออกจากกลุ่ม Facebook Group ที่มีฐานสมาชิกระดับต้นๆในประเทศไทย เกี่ยวกับผู้ชื่นชอบการรับประทานบุฟเฟ่ต์” โดยระบุว่า

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้งาน Facebook ท่านหนึ่ง ติดต่อเข้ามาทาง Inbox Facebook Fanpage Wisdom International โดยผู้ใช้งานท่านนั้น ได้มีการแจ้งว่า "ตนเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม Facebook Group ที่มีฐานสมาชิกระดับต้นๆในประเทศไทย เกี่ยวกับผู้ชื่นชอบการรับประทานบุฟเฟ่ต์"

โดยผู้ใช้งานท่านนี้ได้มีการแจ้งว่า ตนได้รับคูปองรับประทานอาหารจากทางร้าน Wisdom มาจำนวน 2 ใบ จากผู้ร่วมก่อตั้งท่านอื่น โดยจะพาสมาชิกมารับประทานจำนวน 4 คน และสอบถามเงื่อนไขการใช้บริการ

ทาง Wisdom International Buffet ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ จะด้วยการชำระเงินสด, ชำระผ่านบัตรเครดิต หรือการใช้ Gift Voucher ทั้งนี้ผู้ใช้งาน Facebook ท่านนี้ ได้มีการแจ้งเข้ามาว่า จะขอถ่ายรีวิวสินค้าและบริการของทางร้านด้วย ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้ปฏิเสธการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ จากผู้มาใช้บริการ ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขการเว้นระยะห่างทางสังคม

หากแต่ ผู้ใช้งาน Facebook ดังกล่าว ไม่พึงพอใจในกรณีดังกล่าว เนื่องจาก จำนวนคูปองรับประทานอาหารมีจำนวน 2 ใบ แต่ผู้ใช้งาน Facebook ดังกล่าว นำทีมงานมา 4 ท่าน ทำให้ต้องมีการชำระค่าบริการเพิ่มเติมจำนวนอีก 2 ท่าน จนมีการข่มขู่เรื่องการแบนสินค้าในเครือ และผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์

ทางกลุ่ม Wisdom Buffet และ ร้านทุกร้านในเครือไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น และยังยืนยันว่า "การกระทำการถ่ายรีวิวสินค้าและบริการ เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ตราบใดที่ไม่เป็นการรบกวนการใช้บริการของลูกค้าท่านอื่น รวมถึงไม่ดำเนินการถ่ายรีวิวด้วยวิธีการที่อาจก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดต่อโรค Covid-19" หากแต่เงื่อนไขของการเข้าใช้บริการภายใต้การถ่ายรีวิวสินค้าจากทางแบรนด์ ทางแบรนด์ยังขอเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจในการกระทำการ "ชำระค่าใช้บริการ แทนผู้ใช้บริการ"

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอบพระคุณผู้ใช้บริการทุกท่านที่ไว้วางใจเราเสมอมา

2.เพจดังกล่าวได้แนบบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างแอดมินกลุ่มรีวิวและแอดมินร้าน โดยแอดมินกลุ่มรีวิวจาก "กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)" รายหนึ่ง ได้ส่งข้อความไปสอบถามร้าน Wisdom International Buffet บุฟเฟต์ดัง ย่านสยามสแควร์วัน โดยได้คูปองมา 2 ใบ แต่มีทีมงาน 4 คน จึงขอกินฟรี 2 คน เพื่อแลกกับรีวิวร้าน โดยระบุว่า "รีวิวคือการมาทานแล้วคนทานไม่เสียเงิน" 

3.ทางแอดมินร้านจึงได้ไปติดต่อสำนักงานและได้แจ้งผู้มารีวิวว่า ทางร้านได้ส่งคูปอง (Voucher) ไปให้ทางกลุ่มรีวิวดังกล่าวแล้วทั้งหมด 8 ใบ ดังนั้น ทางร้าน จึงปฏิเสธที่จะออกคูปองเพิ่มให้ทีมงานอีก 2 คน โดยให้จ่ายเป็นเงินสดที่หน้าร้านวันที่จะเข้าไปกินแทน

4.แอดมินกลุ่มรีวิวได้แสดงความไม่พอใจ โดยส่งข้อความไปหาทางร้านว่า "ตั้งแต่รีวิวมาไม่เคยเจอร้านที่ยุ่งยากขนาดนี้ ถ้าให้จ่ายเงิน ก็จะไม่รีวิวให้ เพราะมากินก็เสียเงินกับคูปองที่มี โดยแอดมินร้านคงไม่เข้าใจคำว่า "รีวิว" คือการมากินและคนกินไม่เสียเงิน เพราะเป็นการโฆษณาให้ อีกทั้งบางร้านยังต้องเสียเงินให้เพื่อรีวิวอีกด้วย ไม่พอใจทั้งร้านและแอดมิน ทางกลุ่มเฟซบุ๊กจึงขอแบนร้านนี้ ห้ามกล่าวถึง"

5.แอดมินร้านจึงกล่าวขอโทษในความบกพร่อง และขอดูรีวิวร้านอื่นๆ เพิ่มเติม พร้อมชี้แจงว่า ลูกค้าแค่แนะนำตัวว่าเป็นแอดมินกลุ่มบุฟเฟต์ ไม่ได้มีการส่งผลงานการรีวิวแนะนำมาให้ทางร้านก่อน ปกติแล้วหากต้องการรีวิวโดยการเสียเงินต่างๆ ลูกค้าต้องแนะนำผลงานที่ลูกค้าเคยรีวิวนั้นๆ ให้ทางร้านทราบก่อน เนื่องจากลูกค้าไม่ได้มีผลงานแนะนำรีวิวให้กับทางร้านดูก่อน ทางร้านจึงไม่สามารถให้ได้

6.แอดมินกลุ่มรีวิวจึงได้กล่าวคำลา แล้วกล่าวว่า แอดมินของร้านคงงงกับตัวเอง นอกจากนี้ยังส่งข้อความข่มขู่อีกว่า ทางกลุ่มบุฟเฟต์ขอแบนร้าน ถ้าทางร้านอยากเสียสมาชิกเกือบ 1 ล้านคนในกลุ่ม กับมูลค่าที่หายไปก็ตามใจ ในเมื่อแลกกับมูลค่าความรู้สึกที่เสียไป 

7.หลังจากที่ เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น สมาชิกกลุ่มได้โพสต์สอบถาม โดยแอดมินกลุ่มรีวิวคนดังกล่าวได้พยายามลบคอมเม้นท์ที่พาดพิง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการปิดคอมเม้นท์ของสมาชิกในกลุ่มบางคนด้วย ต่อมามีการขุดประวัติของแอดมินรายนี้ที่เคยรีวิวไว้ รวมทั้งการทำคูปองที่ได้ฟรีจากร้านไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม ภายหลังพบว่าแอดมินคนดังกล่าวได้ปิดเฟซบุ๊กแล้ว

8.แอดมินเจ้าของกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ และเพจคนรักบุฟเฟต์ ได้โพสต์ชี้แจงในกลุ่ม โดยระบุว่า "สวัสดีค่ะ แอดมินน้ำหวาน ในฐานะเจ้าของกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ และเพจคนรักบุฟเฟต์ หลังได้ทราบเรื่องจากทีมแอดมินและเพจ Wisdom แล้ว ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยร้าน Wisdom International Buffet เป็นอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในฐานะเจ้าของกลุ่ม หลังได้ทราบเรื่องมิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ และขอชี้แจงว่าทางกลุ่มไม่มีนโยบายแบนร้านใดๆ หรือชักชวนให้สมาชิกกลุ่มแบนร้านใดๆ รวมถึงให้ข่มขู่ร้านใดๆก็ตามแต่ ยกเว้นแต่เป็นความประสงค์ของร้านที่มิให้รีวิวในกลุ่ม แอดมินถึงจะไม่อนุมัติโพสต์นั้นๆ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของร้าน

ทั้งนี้ กลุ่มนี้เกิดจากความตั้งใจของน้ำหวานที่ชอบกินบุฟเฟต์ และอยากสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในกลุ่มได้แบ่งปันข้อมูลกันในกลุ่ม โดยตั้งแต่เปิดกลุ่มมา มีร้านที่สนับสนุนทั้งด้านคูปองทานฟรี ส่วนลดต่างๆ แอดมินยินดีและขอบคุณทุกครั้งที่ร้านแต่ละร้านเอ็นดูกลุ่ม และลูกเพจของกลุ่ม และให้ความสนับสนุนกลุ่มมาโดยตลอด 

ร้านใดที่ให้มาในส่วนแจกลูกเพจ แอดมินมีทั้งดำเนินการแจกเองและสุ่มแล้วแจ้งชื่อกับทางร้าน อาจไม่บ่อยนัก แต่ก็มีเป็นระยะๆ เนื่องจากกลุ่มเราไม่ใช่กลุ่มใหญ่ แต่หากมีร้านที่ให้คูปองเพื่อแจกลูกเพจเข้ามายินดีแจกลูกเพจเสมอค่ะ ส่วนร้านไหนที่ไปทานเอง เสียเงินเอง หากถูกใจก็มีมารีวิวเป็นระยะๆ 

หวานเองหากใครได้เคยติดต่อมาจะทราบดีว่าหวานทำงานประจำ และสามารถไปรีวิวได้ไม่บ่อยนัก และจะแจ้งเสมอว่าเกรงใจเวลาร้านให้ไปรีวิวเพราะเรารีวิวไม่เก่งถ่ายรูปไม่สวย และเวลาที่ดูแลกลุ่มก็อาจจะน้อยมาก แค่ช่วงพักเที่ยงและหลังเลิกงาน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับแอดมินกลุ่มอื่นๆ ซึ่งอาจดูแลไม่ทั่วถึง แต่พยายามดูแลให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเคสไกล่เกลี่ย คนไปทานกับเจ้าของร้าน หรือร้านกับร้าน ก็มีการดูแลและประณีประณอมไปหลายเหตุการณ์ เพื่อให้สถานการณ์นั้นๆ ออกมาดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในวันนี้ แอดมินจะจำเป็นบทเรียนและต้องขออภัยต่อทางร้าน Wisdom เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง แฟนเพจwisdom และลูกเพจทุกท่านต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ในฐานะเจ้าของกลุ่มจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ และตอนนี้แอดมินท่านนั้นพ้นสภาพการเป็นแอดมินกลุ่มแล้วนะคะ"

9.หลังจากเกิดดรามาดังกล่าวขึ้น ทำให้สมาชิกเฟซบุ๊กที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว ออกมาวิจารณ์และตั้งข้อสังเกตถึงกลุ่มนี้ โดยสมาชิกกลุ่มบางรายมองว่า กลุ่มขับเคลื่อนด้วยสมาชิก แต่กลุ่มดันเอาสมาชิกมาเป็นแต้มเพื่อรับผลประโยชน์ แบบนี้ไม่โอเคมากๆ บัตรกินฟรีต่างๆ ที่ได้มาจากร้านอาหารควรจัดกิจกรรมแจกให้กับสมาชิกในกลุ่มบ้างตามโอกาส ไม่ใช่ตกถึงมือแอดมินบางคน

ขณะที่ สมาชิกบางคนขอออกจากกลุ่มดังกล่าว เพราะมองว่า การที่แอดมินนำตัวเลขสมาชิกในกลุ่มไปหาผลประโยชน์ส่วนตัว แถมยังข่มขู่ที่จะลบเนื้อหาของแบรนด์ที่ข่มขู่ไม่สำเร็จ โดยกระทำการเป็นมาเฟียคอยควบคุมเนื้อหา มองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่อยากเป็นหนึ่งในตัวเลขผลงาน ที่ให้ผู้ดูแลเอาไว้ใช้ข่มขู่เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัวอีก

10.ชาวเน็ตร้องเรียนไปยัง ภาควิชาพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังพบว่าแอดมินกลุ่มรีวิวจะได้รับทุนไปเรียนที่อิตาลี โดยขอให้พิจารณาใหม่ หลังจากนั้น เพจเฟซบุ๊กของภาควิชา "Department of Botany, Kasetsart University" ได้ออกมาโพสต์ข้อความสั้นๆ ระบุว่า "ทางภาควิชาฯ ได้รับทราบเรื่องที่ทุกท่านได้เข้ามาให้ความเห็นเกี่ยวกับศิษย์เก่าของภาควิชาแล้ว และจะได้ดำเนินการสืบสวนขอเท็จจริงต่อไปครับ ขอขอบคุณทุกความเห็นที่ท่านได้ส่งมาให้ภาควิชาฯด้วยครับ"

11.เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ก.ย.64 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Saraphol Smathes คาดว่าจะเป็นแอดมินกลุ่มรีวิวบุฟเฟต์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมเช็กอินสถานที่เป็นร้านที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งทำไป ทั้งข้อความและกิริยาใดๆก็ตามที่ไม่ดีและไม่เหมาะสม ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผม จากการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมขอโทษและขออภัยร้าน Wisdom International Buffet ผมขอรับความผิดไว้เพียงผู้เดียว และจะนำบทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาปรับปรุงแก้ไข และระมัดระวังคำพูดและการกระทำต่างๆ ในอนาคตให้มากขึ้น 

ขออภัยต่อทุกท่านที่ได้ผลกระทบจากการเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ

สันติ สาระพล 14 กันยายน 2564"

12.เจ้าของและแอดมินกลุ่มบุฟเฟต์ ชี้แจงอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ก.ย.64 เวลา 22.00 น. ถึงวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของกลุ่มและสาเหตุการได้รับ Voucher จากร้านดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความถึงสาเหตุการได้รับ Voucher จากร้านดังกล่าว

โดยทางกลุ่มได้รับการติดต่อจากร้านทั้งหมด 8 ครั้ง โดยในครั้งที่ 8 วันที่ 22 มิ.ย. 64 ร้านให้ลบโพสท์ที่มีปัญหา พร้อมแจ้งว่าที่รบกวนแอดมินให้ลบโพสท์บ่อยๆ เลยขอมอบ Voucher ร้านให้เครือให้ไปทานฟรี จำนวน อย่างละ 4 ใบ ทางแอดมินกลุ่มจึงลบโพสท์ให้เพราะร้านแจ้งว่ารับทราบปัญหาแล้ว และแก้ไขปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

สำหรับการบริหาร Voucher จากการตกลงหรือรับแจ้งจากร้านว่า Voucher นั้น ที่ได้มาจะเป็นการให้แจกลูกเพจกี่ใบหรือให้แอดมินกี่ใบ และยืนยันไม่เคยติดต่อร้านไหนเพื่อเข้าไปขอ Voucher มาทานเอง หรือขอเข้าไปทานฟรีๆ แต่อย่างใด ยกเว้นเป็นการขอรับบางส่วนเพื่อเป็นสินน้ำใจในการช่วยจัดกิจกรรมการแจก Voucher แก่สมาชิกกลุ่ม

13.ต่อมา คณะผู้บริหาร ร้าน Wisdom International Buffet ได้ออกแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย.64 กรณีร้านถูกกล่าวหาว่า ติดสินบนทางแอดมินของกลุ่มดังกล่าวเพื่อลบโพสต์ โดยระบุว่า "จากกรณีดังกล่าว ทางร้านขอชี้แจงและตอบคำถามในประเด็นที่ทางลูกค้า ประชาชน และสื่อมวลชนสงสัยมาดังนี้

ทางร้านยอมรับว่ามีปัญหาทางด้านบริการที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทางร้านรู้สึกเสียใจต่อทุกปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ได้นิ่งนอนใจ

ทางเราได้รีบดำเนินงานติดต่อกลับไปทางลูกค้าที่ได้รับปัญหานั้นๆเพื่อแสดงความขอโทษ , รับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทันที รวมถึงได้เตรียมแผนการป้องกัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต

เมื่อได้จบปัญหากับทางลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว ทางร้านถึงได้ขอให้ทางแอดมินกลุ่มช่วยลบโพสต์ให้ เนื่องจากในหลายเคส มีผู้ไม่หวังดีและไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวเข้ามาปั่นกระแสและโจมตีร้าน ทั้งการนำโพสต์นั้นมาลงซ้ำ (ลูกค้าต้นเรื่องลบโพสต์เองไปแล้ว) รวมถึงคอมเม้นโจมตีร้านใต้โพสต์นั้นๆ ทางร้านจึงมีความจำเป็นต้องปกป้องชื่อเสียงของทางร้านเอง

และหลังจากการแก้ปัญหาข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ทางร้านจึงได้เสนอมอบเว้าเชอร์ดังกล่าวให้กับแอดมิน โดยมีจุดประสงค์ตามที่ได้แจ้งไปในแถลงการณ์ก่อนหน้าว่า “เพื่อขอบคุณที่แอดมินเป็นสื่อกลางช่วยประสานงาน ให้ทางร้านได้ติดต่อกับลูกค้าที่มาใช้บริการได้โดยตรง” โดยไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเสนอเว้าเชอร์เพื่อเป็น “สินบน” ในการลบโพสต์แต่อย่างใด

และในส่วนของการที่แอดมินจะนำเว้าเชอร์ที่ทางร้านมอบให้ไปใช้ในทางไหนนั้น เป็นสิทธิของแอดมินกลุ่มที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเอง

ทั้งนี้ ทางร้านไม่ได้มีการขอให้ทางแอดมินลบทุกโพสต์ที่เป็นข้อติชมที่กล่าวถึงทางร้าน ความคิดเห็นในเชิงลบที่เป็นของลูกค้าจริงๆ ที่ไม่ใช่มาจากผู้ไม่หวังดี ก็ยังคงมีอยู่ และทางร้านก็ยินดีรับฟังเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุง เพราะทางร้านยังยืนยันว่า ทางเรายินดีที่จะรับฟังทุกข้อคิดเห็น ทั้งติและชม เพื่อนำไปพัฒนาทั้งอาหารและบริการของร้านต่อไป เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารและรับบริการที่ดีที่สุด"