TNN online ดราม่า "เรียนออนไลน์" จิตแพทย์เด็ก #Saveครูวัง เผยครูเครียดมาก-รับผิด

TNN ONLINE

Social Talk

ดราม่า "เรียนออนไลน์" จิตแพทย์เด็ก #Saveครูวัง เผยครูเครียดมาก-รับผิด

ดราม่า เรียนออนไลน์ จิตแพทย์เด็ก #Saveครูวัง เผยครูเครียดมาก-รับผิด

เบาได้เบา! กรณีดราม่า "เรียนออนไลน์" จิตแพทย์เด็ก #Saveครูวัง โดยให้ขอวิจารณ์ในกรอบ ติเพื่อก่อ ห่วงล้อเลียน แดกดัน แสดงความคิดเห็นรุนแรง เผยเป็นคลิปเก่า ครูในคลิปอายุมากแล้ว ทราบเรื่องแล้ว ยอมรับผิด และกำลังเครียดมาก นอนไม่หลับ

เพจจิตวิทยาเด็ก กล่าวถึงกรณี #Saveครูวัง ที่ก่อนหน้านี้ โลกโซเชียลแชร์คลิปการสอนวิชาภาษาอังกฤษของครูท่านหนึ่ง โดยโฟกัสประเด็นการออกเสียงและการสอนที่อาจผิดพลาดในบางจุด จากกลายเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และถามหาความถูกต้อง ตลอดจนถึงมาตรฐานการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย นั้น 

เช้าวานนี้ (20 พ.ค.) ที่ผ่านมา "หมอมินบานเย็น"  จากเพจดัง "เข็นเด็กขึ้นภูเขา" ซึ่งเป็นให้ข้อมูลความรู้เรื่องจิตวิทยาเด็ก โดยการรวมตัวของจิตแพทย์เด็ก 4 คน ได้เขียนถึงกรณีดังกล่าวว่า

"หมอมีโอกาสไปนั่งดูคลิปของคุณครูวัง ครูสอนภาษาอังกฤษที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ต อยากบอกว่าหมอเห็นการสอนของครูวังแล้วรู้สึกประทับใจค่ะ ครูวังมีรอยยิ้ม ยิ้มทั้งดวงตา อย่างที่เราเห็นในภาพประกอบ มีความตั้งใจในการสอน สัมผัสได้ถึงความเมตตาของคุณครู น้ำเสียงน่าฟัง สอนไปยิ้มไป ดูใจดีเป็นกันเอง สอนสนุก ใช้เพลงเป็นสื่อการสอน ครูร้องเพลงไปด้วยสอนไปด้วย น่าจะทำให้เด็กๆ สนใจเรียนภาษาอังกฤษได้

ประเด็นที่คนวิจารณ์กันมากคือ ครูพูดออกเสียงไม่ถูก ครูอาจสอนแกรมม่าผิดบางจุด ตรงนั้นหมอก็เข้าใจนะคะ มันเป็นความผิดพลาดของคุณครู แต่หมอคิดว่าคุณครูวังก็ไม่ได้ต่างจากคุณครูคนอื่นๆ หรือมนุษย์ทุกคนที่เคยทำผิดพลาด แม้แต่ครูสอนภาษาอังกฤษที่เก่งที่สุดในโลกก็คงเคยทำผิดมาบ้าง ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยทำผิด นอกจากหุ่นยนต์ คอมพิวเตอร์ (ครูที่ไม่เคยสอนผิดเลย ครูคนนั้นอาจจะเป็น A.I. หมอคิดว่าเช่นนั้น) และการที่ครูคนหนึ่งที่เป็นคนเก่ง อาจสอนถูกต้องตามตำราทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นครูที่เพอร์เฟ็คเสมอไป คนไข้ของหมอคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า คุณครูของเขาที่เป็นคนเก่ง ฉลาด แต่ดุมาก ไม่เข้าใจเด็ก ก็ทำให้เด็กๆ ที่เรียนด้วยไม่ชอบวิชานั้นๆ ไปเลย ดังนั้นหมอคิดว่า คุณครูวังมีคุณสมบัติที่สำคัญมากที่คุณครูควรมี คือ บุคลิกที่ใจดี ดูมีเมตตา ตั้งใจสอน เข้าใจเด็กๆ

แต่ความเห็นในโลกออนไลน์มากมายในเรื่องนี้ที่ออกจะเกินเลยไปมาก บางคนบอกว่าต้องการ 'ติเพื่อก่อ' แต่หมอเห็นหลายๆ ความเห็นที่ล้อเลียนในเชิงตลกขบขัน ไม่นับพวกที่ทำคลิปล้อคุณครู ใส่ซับไทเทิล ทำเหมือนเป็นครูตัวตลก เปรียบเทียบ แดกดัน บางความเห็นรุนแรง ขนาดเราเห็นแล้วยังรู้สึกไม่ดี ดังนั้นเรื่องนี้คงทำให้คนที่ตกเป็นเป้าอย่างคุณครูคงรู้สึกแย่เอามากๆ ทีเดียว

แต่อย่าลืมนะคะ ไม่มีใครหรอกที่ดีเลิศ ไม่ว่าจะเป็นครู หรือใครๆ เราทุกคนเอง ตัวหมอเอง ก็มีโอกาสทำผิดพลาด แต่เราก็ล้วนต้องการโอกาสในการแก้ไข ปรับปรุงตัว สำคัญคือ เมื่อใครสักคนทำผิด เราอยากให้คนคนนั้นพัฒนาตัวเอง อย่างแรกเลยก็ต้องทำให้เขารู้สึกมีความหวัง มีกำลังใจ ก่อน ไม่ใช่บั่นทอนจิตใจ และทำให้เขาร่วมมือ เข้าใจเรามากขึ้น

หมออยากจะให้เรื่องราวนี้ทำให้เราตระหนักมากขึ้นในเรื่องของการ ‘คิดถึงใจเขาใจเรา’ สมมติว่าเป็นพ่อแม่ แล้วมีคนมาวิจารณ์การเลี้ยงลูกของเรา ว่าเป็นพ่อแม่ที่แย่ ไม่ได้เรื่อง ไม่สมควรจะมาเป็นพ่อแม่ใคร เพราะช็อตเดียวที่เขาผ่านมาเห็น เราจะรู้สึกอย่างไร เราจะบอกว่า “อ๋อ ไม่เป็นไร เขาติเพื่อก่อ” หรือไม่

ลองถามใจตัวเอง เราชอบไหม เวลาคนตำหนิหรือประจานเราต่อหน้าคนอื่น เรารู้สึกแบบไหน เวลาเจ้านายดุเราต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน พ่อแม่ดุด่าเรากลางบ้าน ครูด่าเราต่อหน้าเพื่อน ไม่มีใครอยากถูกตำหนิประจานให้อับอาย เราคงชอบมากกว่าถ้าคนคนนั้นมาบอกเราโดยตรง ให้ข้อเสนอแนะในเชิงสร้างสรรค์ หากเป็นเราเอง วันหนึ่งถูกคนมากมายในอินเทอร์เน็ตมาตำหนิวิจารณ์ถึงการทำงาน ตัดสินว่าเราไม่ดี เพียงเพราะคลิปเดียวที่เห็นในโซเชียล เราจะรู้สึกแบบไหน คุณครูวังก็คงเป็นเช่นนั้นอยู่

เอาเป็นว่าคิดง่ายๆ คือ ถ้าเราไม่ชอบอะไร เราก็อย่าทำแบบนั้นกับคนอื่น แค่นั้นแหละ

 ดังนั้นหมอขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้คุณครูละกันนะคะ ไม่อยากให้คุณครูท้อแท้ใจ หมออยากบอกครูว่า ถ้าหมอต้องไปสอนเด็กๆ แบบคุณครู หมอทำไม่ได้แน่นอน ขอให้คุณครูวังอย่าเสียกำลังใจเพราะเรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้คุณครูที่มีความตั้งใจทุกๆ คน ทำงานเพื่อเด็กๆ ต่อไปนะคะ

สุดท้ายนี้ หมอรบกวนขอให้กระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงแก้ไขเรื่องคลิปต่างๆ ที่มีข้อผิดพลาดด้วยค่ะ อย่าให้คุณครูหลายๆ คนกลายเป็นหนังหน้าไฟ รับคำตำหนิและวิจารณ์ไปเช่นที่เป็นอยู่"

นอกจากนี้ หมอมินบานเย็น ได้ให้ข้อมูลฝั่งครูในคลิป โดยแจ้งในกล่องคอมเมนต์ท้ายบทความนี้อีกด้วยว่า 

"เท่าที่ทราบมาจากผู้ใกล้ชิดคุณครู คลิปนี้เป็นคลิปเก่ามากถ่ายไว้นานภายในประมาณ 5 ปีก่อนและกระทรวงนำมาออกอากาศ ...ปัจจุบันคุณครูวังเกษียณไปแล้ว ขณะนี้ไม่ค่อยสบาย อย่างไรก็ดี คุณครูได้ดูข่าวที่ออกทางทีวี รับทราบทุกเรื่อง และยอมรับความผิดพลาด ตอนนี้คุณครูมีอาการเครียด ร่วมกับนอนไม่หลับ ... หมอคิดว่าถ้าเราจะตำหนิก็ตำหนิอย่างสร้างสรรค์แล้วกันนะคะ คิดเสียว่าถ้าเราทำผิด เราอยากให้คนบอกเราแบบไหนค่ะ ใจเขาใจเรา ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ครูไม่ได้เรียกคะแนนสงสาร ครูยอมรับความผิดพลาดแล้วค่ะ เพียงอยากให้เห็นใจคุณครูบ้าง ตำหนิได้แต่เอาแต่พอเหมาะพอดีนะคะ

 หมอขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาในเพจนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่บางคอมเมนท์ไม่ได้ตอบเพราะคอมเมนท์เยอะมากๆ (เหมือนที่ส่งเข้ามาถามคำถามในอินบอกซ์หมอตอบไม่หมดจริงๆ)

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้คุณครูวังค่ะ หมออยากบอกอีกครั้งว่า ที่หมอให้กำลังใจครูวัง ไม่ได้หมายความว่าครูสอนถูกต้อง เพียงแต่หมอเห็นใจที่ครูถูกตำหนิมากมายในโลกออนไลน์ จนบางครั้งรุนแรงเกินไป ครูผิดหลายจุดจริงค่ะ แต่ข้อดีก็มีอยู่ เพียงแต่หมออาจจะไม่ได้ย้ำจุดที่ครูทำผิด เพราะก็รู้สึกว่าหลายคนพูดไปแล้ว ครูก็ได้อ่านแล้ว

บางคนบอกว่าทำไมให้กำลังใจครู ไมให้กำลังใจเด็กๆ หมอไม่ได้ไม่เห็นใจเด็กๆที่เรียนออนไลน์ ถ้าได้อ่านโพสต์ที่ผ่านมา หมอเขียนประเด็นนี้มากอยู่ ส่วนใหญ่หมอจะเขียนถึงเด็กๆ มากกว่าครูหรือพ่อแม่ด้วยค่ะ

แต่พอดีโพสต์นี้อาจจะเน้นเรื่องการตำหนิด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจเท่านั้น

สุดท้ายอยากฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการว่าช่วยออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย เพราะคุณเป็นคนคัดเลือกคลิปไปสอนเด็กๆ ไม่ได้มีเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ แต่วิชาอื่นๆ ก็มีความผิดพลาด คงต้องแก้ไขจริงๆ

หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้การศึกษาไทยได้ปฏิรูปเสียทีนะคะ อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้ทุกคน พ่อแม่ เด็กๆ คุณครู และทุกคนที่หวังดีกับสังคมและประเทศชาติ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ"

และเมื่อเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้โพสต์บทความดังกล่าว ปรากฎว่า เพียง 1 วัน บทความนี้ก็กลายเป็น "ตำบลกระสุนตก" ของคอมเมนต์จำนวนเฉียด2พันแล้ว เพราะมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากต่อกรณีที่เกิดขึ้น

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ข่าวที่เกี่ยวข้อง