“บิ๊กแดง” เห็นใจ “จ่าจำปา” แต่จำเป็นต้องลงโทษ

“บิ๊กแดง” เห็นใจ “จ่าจำปา” แต่จำเป็นต้องลงโทษ หลัง “จ่าจำปา” โต้เถียงกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ถึงกรณี จ่าจำปา หรือ จ.ส.อ. พีรศักดิ์ จำปา มีปากเสียงกับ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เนื่องจากพยายามขับข้ามจังหวัดไปดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง โดยระบุข้อความว่า
“บิ๊กแดง” เห็นใจ “จ่าจำปา”
แต่ ต้องลงโทษ
ชี้ ทหารต้องยึดระเบียบวินัย
ผิด ก็ว่าไปตามผิด แต่ต้องช่วยเหลือดูแล / “แม่ทัพ4-ผบ.พล.ร.5” ไม่ทำตาม กระแส ยังไม่รับปาก จะลดโทษ มั้ย ให้คณะกรรมการพิจารณา เพราะเป็นโทษวินัย ไม่ใช่โทษอาญา เผย “จ่าจำปา” ก็ยอมรับผิด
พลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 (ผบ.พล.ร.5) กล่าวถึง กรณี “จ่าจำปา”จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา ทหารสื่อสารประจำหมวดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 5 กองพลทหารราบที่ 5 (ร้อย.ลว.ไกล.5 พล.ร.5) ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกลงโทษสั่งขังเป็นเวลา 45 วันพร้อมงดเบี้ยบำเหน็จ
จากเหตุการณ์ที่มีการโต้เถียงกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
ว่า จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ยอมรับว่ามีความผิดทางวินัยจริง เนื่องจากไปพูดเสียงดังใส่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนการทบทวนคำสั่งการลงโทษ จ.ส.อ.พีรศักดิ์หรือไม่ เพราะกระแสสังคมโจมตีว่ารุนแรงเกินไป พล.ต.ศานติ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมการ ซึ่งก็เป็นระดับผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ในพล.ร.5 เป็นผู้พิจารณา แต่มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญาที่มีความผิดรุนแรง ซึ่งความผิดทางวินัยสามารถลดโทษ หรือเพิ่มโทษก็ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา
แต่ทั้งนี้ต้องมองว่าการที่มีความผิดทางวินัยนั้น เนื่องจากทหารทุกนายต้องปฏิบัติตามนโยบายของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ว่าในช่วงที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นั้น ทหารต้องเป็นแบบอย่างให้ประชาชน และต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด
ซึ่งด่านที่จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ไปเจอกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรังนั้น เป็นด่านที่เปิดให้เฉพาะคนในพื้นที่จ.ตรังผ่านเข้าออกเท่านั้น แต่จ.ส.อ.พีรศักดิ์สามารถไปผ่านเข้าออกด่านอื่นได้ โดยทางพล.ร.5 มีหนังสือยืนยันให้เรียบร้อยตามขั้นตอน
“ต้องเข้าใจว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารนั้น เรามีระเบียบและวินัย เพราะเราเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน เราจะไม่ใช่กระแสสังคมมาเป็นตัวกำหนด
ต้องยอมรับว่า จ.ส.อ.พีรศักดิ์ เองทำผิดคำสั่งผบ.ทบ. ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าพูดเสียงดังจริง
ทั้งนี้ หากจ.ส.อ.พีรศักดิ์สำนึกผิดแล้วก็อาจจะลดโทษลงให้ได้ เพราะไม่ใช่ความผิดคดีอาญา
แต่วินัยมก็คือวินัย และการดูแลก็คือการดูแลที่เราต้องทำอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ผบ.ทบ.และพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ก็มีความเข้าใจในเหตุการณ์นี้
โดยผบ.ทบ.ชมเชย ว่าพล.ร.5 ทำถูกต้องแล้ว และก็เห็นใจ จ.ส.อ.พีรศักดิ์
พร้อมเน้นย้ำว่าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่การช่วยเหลือก็ต้องเป็นไปตามระบบ” พล.ต.ศานติ กล่าว
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวถึงการทบทวนคำสั่งลงโทษ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ว่า ขอรอผลการสอบสวนก่อนว่าจะปรับลดโทษอย่างไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นความผิดทางวินัยทหาร ไม่ใช่ความผิดทางอาญา ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา
แต่ยืนยันว่าเราจะไม่พิจารณาตามกระแสสังคมกดดัน แม้ว่าจ.ส.อ.พีรศักดิ์ จะมีเหตุผลที่จะขอเข้าพื้นที่ แต่ไม่ควรไปโต้เถียงหรือแสดงกิริยาท่าทางเช่นนั้น เนื่องจากเป็นนโยบายของผบ.ทบ. ได้สั่งการภายหลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในแต่ละด่านตรวจ และให้ปฏิบัติตามกฎของพื้นที่นั้นๆ
"ผมได้เห็นคลิปฯแล้ว แม้จะมีเหตุผลในการขอเข้าพื้นที่ แต่ก็ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียง หรือแสดงกิริยากับผู้ว่าฯเช่นนั้น
ตอนนี้เข้าใจว่าสังคมเห็นใจ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ แต่วินัยทหารเรื่องการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา เป็นสิ่งที่ต้องยึดถือ และใช้บังคับกำลังพลทุกระดับชั้น ไม่มียกเว้น เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาจะมีดุลยพินิจว่ามีเหตุผลสมควรต่อการลดโทษ
: กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า