TNN online กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ

TNN ONLINE

สังคม

กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ

กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ

กทม. เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ลดระดับน้ำให้สู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด

ภาพจากเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

วันนี้ (12 ก.ย.64) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการจัดทำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติของกรุงเทพมหานคร ว่า กรุงเทพมหานครมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอันมีสาเหตุจากน้ำฝนน้ำหลากและน้ำหนุน โดยขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครสามารถรองรับปริมาณฝนตกสะสมใน 1 วันได้ไม่เกิน 80 มิลลิเมตร หรือปริมาณความเข้มฝนไม่เกิน 58.70 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หากเกินกว่าปริมาณดังกล่าวก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตามความรุนแรงปริมาณฝนที่เกิดขึ้น 


กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ


กรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานครได้มีจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดน้ำท่วมในพื้นที่แล้วโดยมีมาตรการต่าง ๆ ดังนี้ มาตรการก่อนเกิดภัย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และเตรียมพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวหากต้องมีการอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม มาตรการขณะเกิดภัย แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมและข้อปฏิบัติขณะเกิดเหตุให้แก่ประชาชนรับทราบและรับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เพื่อลดระดับน้ำให้สู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่เร็ว (BEST) และหน่วยบริการประชาชนเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพแก่ประชาชนผู้ประสบภัย การอพยพ ช่วยอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคพื้นฐานและบริการด้านสาธารณสุข มาตรการฟื้นฟูบูรณะหลังเกิดเหตุ จัดตั้งหน่วยบรรเทาทุกข์เพื่อให้การช่วยเหลือบูรณะฟื้นฟูสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เกี่ยวข้อง


กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ


สำหรับการบูรณาการความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำระหว่างกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานครได้มีการประชุมทุกสัปดาห์ร่วมกับคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานต่างๆ และอีกหลายหน่วยงาน ร่วมกันติดตามวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ เพื่อเป็นข้อมูลในการสั่งการและสนับสนุนการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งบริเวณรอยต่อกรุงเทพฯและปริมณฑล กรุงเทพมหานครได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับจังหวัดปริมณฑลโดยรอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและเตรียมการแก้ไขพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วม ซึ่งมีการดำเนินการมาต่อเนื่องทุกปี

นอกเหนือจากนี้กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับกรมชลประทาน บูรณาการการบริหารจัดการน้ำร่วมกันและได้กำหนดเกณฑ์ค่าระดับและปริมาณน้ำที่ปล่อยเข้าสู่กรุงเทพมหานคร บริเวณรอยต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดปริมณฑล เพื่อช่วยรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน โดยไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร และระบายน้ำออกนอกพื้นที่ไม่ให้กระทบพื้นที่รอยต่อ เช่น สถานีสูบน้ำคลองหกวาสายล่าง ช่วงฤดูฝน จะเดินเครื่องสูบน้ำเมื่อค่าระดับน้ำภายในสูงเกินกว่า +0.90 ม.รทก. และจะหยุดเดินเครื่องสูบน้ำเมื่อค่าระดับน้ำภายนอกสูงถึง +1.70 ม.รทก.


กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ


ด้านการเตรียมความพร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับสถานการณ์น้ำหลากกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครมีแผนรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ 9 ขั้นตอน ประกอบด้วย 

1. ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและจากเรดาร์ตรวจฝนของกรุงเทพมหานครโดยศูนย์ป้องกันน้ำท่วม ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง 

2. เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตามจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำท่วมให้เพียงพอและพร้อมใช้งานได้ทันที 

3. ควบคุมและลดระดับน้ำในคลอง บ่อสูบน้ำและแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนฯ 

4. เมื่อมีฝนตก ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม แจ้งเตือนสถานการณ์ฝนตกให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม  ผ่านระบบวิทยุสื่อสาร Trunked Radio แจ้งเตือนสำนักงานเขตผ่านวิทยุสื่อสารเครือข่าย "อัมรินทร์"  แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลุ่ม Line "เตือนภัยน้ำท่วม กทม." (ปภ. ทหาร ตำรวจ สื่อมวลชน)

5. ส่งหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน (BEST) ประจำจุดเสี่ยงและจุดสำคัญเมื่อคาดว่าจะมีฝนตกหนัก เพื่อเร่งระบายน้ำ และแก้ปัญหาด้านการการจราจร 

6. หน่วยงานภาคสนามลงพื้นที่ตามจุดต่างๆ และรายงานสถานการณ์น้ำท่วมให้ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม ทราบ 

7. ประสานงานขอการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น  ตำรวจเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร การปิดเส้นทางน้ำท่วม / ทหาร ช่วยเหลือประชาชน หากมีระดับน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านได้ เป็นต้น 

8. เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในจุดที่วิกฤติ โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม 

9. ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม รายงานสภาพฝน ปริมาณฝน พื้นที่น้ำท่วมขังเป็นระยะๆ และสรุปสถานการณ์เพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานต่างๆและช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน กรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยมี ผอ.เขต เป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ 


กทม.เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง