TNN online เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5 จับตากระทบไทย

TNN ONLINE

สังคม

เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5 จับตากระทบไทย

เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5  จับตากระทบไทย

เปิดเส้นทาง มหาพายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงเท่าเฮอริเคนระดับ 5 เคลื่อนตัวถล่มฟิลิปปินส์ จับตาส่งผลกระทบไทยหนักแค่ไหน

วันนี้ ( 1 พ.ย. 63 )จากกรณี เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ สั่งอพยประชาชนหลายพันคนในพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ขณะที่ซูเปอร์ “ไต้ฝุ่นโคนี”ซึ่งเป็นพายุระดับ รุนแรงที่สุดในโลกในปีนี้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ โดยไต้ฝุ่นโคนีซึ่งเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 265กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ชั่วโมง เทียบเท่าเฮอริเคนระดับ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในโลก ของปีนี้ ตามมาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน นับเป็นไต้ฝุ่นกำลังแรงที่สุดที่ถล่มฟิลิปปินส์ตั้งแต่พายุไห่เยี่ยนพัดถล่มในเดือนพฤศจิกายน 2556 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,300 คน

 

สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่าเส้นทางของพายุจะมีผลกระทบตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันออก เรื่อยไปจนถึงตอนใต้ของเกาะลูซอน โดยเฉพาะจัง จังหวัดฮีลากังคามารีเนส และจังหวัดตีโมกคามารีเนส เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงสุดในการเป็นเส้นทางผ่านของ “ไต้ฝุ่นโคนี”

  เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5  จับตากระทบไทย


หลังจากนั้น “ไต้ฝุ่นโคนี” จะเคลื่อนสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ พ.ย. 2563 และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ในช่วงวันที่ 4-พ.ย. 2563


เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5  จับตากระทบไทย


สำหรับประเทศไทยนั้นคาดว่าจะได้รับผลกระทบ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันออก โดยพายุ จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น เข้าสู่ไทยทำให้ฝนตกปานกลางในพื้นที่อีสานตอนล่างได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ในพื้นที่สระบุรี ปราจีนบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และใกล้เคียง และฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ กรุงเทพ และปริมณฑลช่วง 6-7 พ.ย.


เปิดเส้นทาง พายุไต้ฝุ่นโคนี รุนแรงระดับ 5  จับตากระทบไทย


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง