เปิดใจ! หนุ่มไอเป็นเลือด ตรวจ 4 รพ. เพิ่งพบมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

วันนี้( 20 มิ.ย.63) ชายวัย 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เปิดใจกับ ทีมข่าวTNNช่อง16 หลังเรื่องราวการตรวจวินิจฉัยโรคและกระบวนการรักษามีความล่าช้า ใช้เวลานานเกือบ 6 เดือน รวม 4 สถานพยาบาล จึงสามารถวินิจฉัยพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ขนาด 9 เซนติเมตร 

โดยผู้ป่วยระบุว่า มีอาการไอเป็นเลือดและเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ช่วงวันที่ 17 มกราคม 2563 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4 เขตลาดพร้าว โดยใช้สิทธิประกันสังคม ซึ่งแพทย์ก็รักษาจ่ายยาตามอาการ แต่ผ่านไป 3 วัน ยังคงไอเป็นเลือดและเจ็บหน้าอกจึงไปพบแพทย์ก่อนเวลา โดยครั้งนี้ได้รับการรักษากับแพทย์อีกคน แพทย์ได้สั่งจ่ายยาตามอาการ และให้ผู้ป่วยเก็บเสมหะ เพื่อนำเสมหะมาตรวจวัณโรคในสัปดาห์ถัดไป 

เมื่ออาการไม่ดีขึ้น จึงเปลี่ยนสถานที่เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่ง แพทย์ได้เอกซเรย์ปอดและพบว่ามีฝ้าในปอด จึงรักษาจนฝ้าในปอดหายแต่กลับพบก้อนสีขาวกลางหน้าอก จึงทำใบส่งตัวกลับไปทำซีทีสแกนที่โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม เพื่อที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

จากนั้นตนจึงนำใบส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลแรก แต่แพทย์กลับให้เอกซเรย์ปอดอีกครั้งพบว่าไม่มีฝ้าในปอดแล้ว แต่มีก้อนสีขาวตรงกลางหน้าอกและแจ้งว่าไม่ใช่เนื้องอกแต่เป็นเส้นเลือดใหญ่และตนหายดีแล้วให้กลับบ้านได้ ซึ่งขณะนั้นอาการไอของตนก็ยังรุนแรงอยู่

จากนั้น วันที่ 24 มีนาคม 2563 จึงตัดสินใจทำ CT SCAN ที่คลินิกเอกชน โดยจ่ายค่าใช้จ่ายเองพร้อมทั้งทำเรื่องย้ายสิทธิประกับสังคมไปยังโรงพยาบาลเอกชน(แห่งที่3) ย่านเสนานิคม เขตจตุจักร โดยผลการตรวจ พบว่า ก้อนสีขาวที่กลางหน้าอก คือเนื้องอก ขนาดความยาว 9x8x7 เซนติเมตร แพทย์จึงเขียนใบส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิประกันสังคม ซึ่งโรงพยาบาลที่สามที่เข้ารับการรักษากลับใช้เวลานานกว่า 40 วันกว่าจะได้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคม 2563 ผลการตรวจชิ้นเนื้อพบว่า เป็นเนื้อร้าย โดยได้ทำการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรัฐแห่งที่ 4 จนล่าสุดต้นเดือนมิถุนายนเพิ่งทราบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

โดยผู้ป่วยมองว่า ระยะเวลา กว่า 6 เดือน ในการตรวจวินิฉัยโรค เป็นเวลาที่ค่อนข้างนานและส่งผลให้เสียโอกาสในการรักษา จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการตรวจวินิจฉัยและรับฟังข้อมูลจากผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากความรุนแรงของโรคส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการรักษาที่ทันท่วงที พร้อมยืนยัน ไม่ได้ต้องการคำขอโทษหรือการชดใช้ใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่อยากให้เรื่องราวของตนเองเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับผู้ป่วยรายอื่น 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้(19 มิ.ย.) ผู้ป่วยชายวัย30 ปีได้เข้ารับการตรวจไขกระดูกสันหลัง เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะใด เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ขอโทษและแก้ไขแล้ว! หลังโรงเรียนดังชี้เบี่ยงเบนทางเพศผิดร้ายแรง

-"หมอธีระ" ชี้นั่งชิดกันบนขนส่งสาธารณะเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19

-ชื่นชม!ตาพิการ-หลาน 3 ขวบ จิตสาธารณะขนหินซ่อมถนน

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline