สภาวิศวกร เสนอวิธีรับมือฝุ่น PM2.5 ชี้รถบรรทุกวิ่งวันคู่วันคี่ไม่ได้ผล

วันนี้ (16 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหลายพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ยังคงเกินค่ามาตรฐาน โดยสภาวิศวกรได้เสนอ หน่วยงาน ภาคอสังหาริมทรัพย์ คมนาคม การก่อสร้าง ขนส่งทางราง และสิ่งแวดล้อม เตรียมวางแผนสร้างมาตรการรองรับภัยฝุ่นละอองขนาดเล็กในระยะยาว รวมถึงจัดทำแผนที่ฝุ่นในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเป็นตัวพยากรณ์ฝุ่นให้กับประชาชน และการพัฒนาการจัดเภาษีฝุ่น

สภาวิศวกร จัดแถลงข่าว แนวทางการรับมือฝุ่น PM2.5 มหันตภัยร้ายปกคลุมน่านฟ้า กรุงเทพมหานคร นำโดย ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร ดร.ประเสริฐ ตปนียยางกูร คณะอนุกรรมการประสานงานด้านภัยพิบัติ ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ยุทธนาทมหัจฉริยวงศ์ ประธานคณะทำงานศึกษาหาแนวทางป้องกันแก้ไขไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 

ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร ระบุว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ที่ได้ปกคลุมน่านฟ้าไทยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และเป็นผลให้คนไทยจะต้องเผชิญกับมหันตภัยฝุ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยฝุ่น PM2.5 มีในอากาศตลอเวลา ทางสภาวิศวกรส่วนหนึ่งเกิดจากสภาวะสภาพอากาศ แต่ปัจจัยหลักในการเกิดฝุ่น PM2.5 คือ ควันไอเสียจากรถยนต์ เช่น ควันเสีย ควันดำ จากรถเมล์ รถบรรทุก และรถที่มีอายุการใช้งานนาน 

ทั้งนี้ ได้เสนอแนวทางหลักๆ เช่น แนวคิดพัฒนาภาษีฝุ่น ในการมีมาตรการลดหย่อนภาษีฝุ่น หากตึกอาคารใดที่มีการก่อนสร้าง แล้วมีการควบคุมมลพิษทางอากาศได้ดี สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่หากตึกใดไม่มีมาตรการควบคุมการก่อสร้างที่ดี ก็สามารถเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อนำไปดูแลด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การจัดทำแผนที่ฝุ่น เพื่อนำไปสู่การพยากรณ์ฝุ่นให้กับประชาชนล่วงหน้าว่าพื้นที่ใดเสี่ยง การจัดทำป้ายรถเมล์ ที่มีตัวระบายอากาศ เช่น ติดตั้งพัดลม เนื่องจากมีการสำรวจและตรวจวัด บริเวณป้ายรถเมล์ พบว่า มีค่า PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน การใช้เทคโนโลยีแจ้งเตือน ฝุ่นและป้องกันด้านสุขภาพ แบบเรียลไทม์ และการพัฒนานำ ระบบ บิ๊กดาต้ามาใช้ในการแจ้งเตือนภัยฝุ่น

ทั้งนี้ นายกสภาวิศวกร มองว่า การฉีดน้ำตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะบนพื้นที่สูง ไม่ได้ช่วยลดค่าฝุ่น PM2.5 โดยวงเสวนาเห็นตรงกัน ควรปรับลดค่ามาตราฐาน PM2.5 ให้เป็นไปตามหลักสากล ให้อยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และควรจริงจังในมาตรการที่ทำอยู่ เช่น มาตรการ ตรวจจับควันดำ ควรบังคับใช้อย่างเข้มงวด ไม่ใช่เพียงแต่ทำเฉพาะ ช่วงค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน และไม่ควรให้รถควันดำเข้ามาวิ่งในกรุงเทพมหานคร

ดร. ประเสริฐ ตปนียยางกูร คณะอนุกรรมการประสานงานด้านภัยพิบัติ ระบุว่า เหลือเวลาในการแก้ไขปัญหาฝุ่นอีก 8 เดือน ก่อนที่ปลายปีจะกลับมาซ้ำอีก ประเทศไทยควรมี กฎหมาย หรือ พระราชบัญญัติ อากาศสะอาดได้แล้ว เพื่อควบคุมปัจเสี่ยงต่างๆที่กอให้เกิดมลพิษทางอากาศ เนื่องจากปัญหา ฝุ่น PM2.5 มีความรุนแรงขึ้นทุกปี โดยมาตรการที่รัฐที่ทำอยู่ขณะนี้ ควรจริงจัง ขณะที่ ประชาชนทั่วไป สามาถช่วยลด ปัญหาฝุ่นPM2.5 ได้เช่นเดียวกัน เช่น การลดการสูบบุหรี่ เนื่องจากมีผลวิจัยด้านสุขภาพชัดเจน ว่า บุหรี่ ทำให้ก่อฝุ่น PM2.5 ได้ 100% การลดปิ้งย่าง ส่วนการเผาป่าเผาในที่โล่งแจ้ง กระทรวงมหาดไทยต้องเอาจริง

ขณะที่แนวคิดการกำหนดให้รถบรรทุกวิ่งวันคู่วันคี่นั้น มองว่าอาจไม่ได้ผลทั้งหมด เนื่องจากมีผลการศึกษาจากประเทศอินเดียว่า การกำหนดวันให้รถวิ่ง ช่วยลด PM2.5 ได้เพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand