TNN online ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่ทัน 26 มี.ค. จะได้ใช้สิทธิเมื่อไร?

TNN ONLINE

สังคม

ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่ทัน 26 มี.ค. จะได้ใช้สิทธิเมื่อไร?

ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่ทัน 26 มี.ค. จะได้ใช้สิทธิเมื่อไร?

เช็กสิทธิ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน" อัปเดตล่าสุด มีผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันตัวตนสำเร็จ 12,270,571 ราย ยื่นอุทธรณ์ 1,165,454 ราย

เช็กสิทธิ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน" อัปเดตล่าสุด มีผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันตัวตนสำเร็จ 12,270,571 ราย ยื่นอุทธรณ์ 1,165,454 ราย


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการฯ) ณ วันที่ 24 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 12,270,571 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 84.06 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย) 

สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,165,454 ราย


ผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตนและผลการยืนยันตัวตน ต้องแสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” หรือผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังยืนยันตัวตนไม่สำเร็จก็จะต้องดำเนินการ

ยืนยันตัวตนให้สำเร็จ ภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 เพื่อให้สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 สำหรับวันเสาร์ที่ 25 และวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2566 จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. จะเปิดให้ผู้ผ่านเกณฑ์สามารถยืนยันตัวตนในวันเสาร์ – อาทิตย์ โดยสาขาทั่วไปจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 16.00 น. 


การยืนยันตัวตนผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต


สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่ไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารทั้งสามแห่งข้างต้นได้ตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด แต่จะสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยรายละเอียดช่วงเวลาการยืนยันตัวตนและวันที่เริ่มใช้สิทธิ ปรากฏตามตาราง 


ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่ทัน 26 มี.ค. จะได้ใช้สิทธิเมื่อไร? Image Caption

 


โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ เนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่าน ซึ่งในกรณีนี้ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหากตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ขอให้กลับมาดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้ง นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนไม่สำเร็จอาจเกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้า

ไม่ผ่าน ซึ่งผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ กรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่านขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยต่อไป


ช่องทางตรวจสอบสิทธิ


ตรวจสอบสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน 


การยืนยันตัวตน


1. ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติสามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ (1) ธนาคารกรุงไทยฯ (2) ธนาคารออมสิน หรือ (3) ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าวตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร


2. เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต


3. หากดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31มีนาคม 2566 เท่านั้น


กรณีเดินทางมาด้วนตนเอง

- บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)

- ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะ หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือ ทะเบียนบ้านที่มี การจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)


กรณีมอบอำนาจ

ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้เอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสารดังนี้

- บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน) 

- ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะ หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือ ทะเบียนบ้านที่มี การจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)

- หนังสือมอบอำนาจ (ดาวโหลดที่เว็บไซต์โครงการฯ) คลิกที่นี่

- บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) 

- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือ ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน


กรณี ไม่ผ่าน คุณสมบัติการพิจารณาคุณสมบัติ ให้ทำดังนี้


1. ยื่นอุทธรณ์ โดยสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 วิธี คือ

- อุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th

- ติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียนเพื่อยื่นอุทธรณ์แทน

2. ติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน เพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

หลังจากยื่นอุทธรณ์แล้ว ผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติต้องติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติไม่ผ่าน เพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566

อุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป และต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566


กรณีมอบอำนาจ (ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาอุทธรณ์ได้เอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้เอกสารดังนี้)

-บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

-หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไวต์โครงการฯ) คลิกที่นี่

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

-สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)





ที่มา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

แฟ้มภาพ ผู้สื่อข่าวชัยนาท


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง