TNN online "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รอบใหม่ล่าช้า อาจใช้สิทธิไม่ทัน มี.ค.นี้

TNN ONLINE

สังคม

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รอบใหม่ล่าช้า อาจใช้สิทธิไม่ทัน มี.ค.นี้

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ล่าช้า อาจใช้สิทธิไม่ทัน มี.ค.นี้

คลังแจงประกาศรายชื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ล่าช้า หลังธนาคารกรุงไทยไม่ส่งข้อมูลให้ตามแผนที่วางไว้เดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดบัตรสวัสดิการฯ ของใหม่อาจเริ่มใช้ไม่ทัน 1 มีนาคมนี้


"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รอบใหม่ล่าช้า อาจใช้สิทธิไม่ทัน มี.ค. นี้


นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ได้ เนื่องจากธนาคารกรุงไทยยังไม่ได้นำส่งรายชื่อมาให้กระทรวงการคลังประกาศแต่อย่างใด จากเดิมจะต้องประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติภายในเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องไปถามธนาคารกรุงไทยถึงเหตุผลที่ยังไม่นำส่งรายชื่อ


ผู้สื่อข่าวจากกระทรวงคลัง ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการสอบถามถึงความล่าช้าของการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติรับสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน 


และได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงของการเตรียมการเลือกตั้ง ที่พรรคการเมืองต้องการนำไปหาเสียง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องการนำโครงการบัตรสวัสดิการฯ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการหาเสียงของพรรคตัวเอง จนทำให้โครงการบัตรสวัสดิการ  ยังคงเคว้งคว้าง และประชาชนที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการรอบใหม่ต้องรอไปก่อน และมีแนวโน้มว่าจะเปิดใช้สิทธิสวัสดิการวันแรกไม่ทันตามที่กำหนดในวันที่ 1 มีนาคม 66


นอกจากนี้ในส่วนของการปรับเพิ่ทวงเงินบัตรสวัสดิการรอบใหม่ เป็นเดือนละ 700 บาท กระทรวงการคลังยังไม่แน่ใจ เพราะการเพิ่มวงเงินอุดหนุนต้องใช้งบประมาณเพิ่มมหาศาล และอาจต้องใช้งบประมาณสนับสนุนโครงการสวัสดิการเพิ่มเป็นปีละกว่าแสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มีการใช้งบประมาณเฉลี่ยปีละ 5 หมื่นล้านบาท 


เนื่องจากการจัดทำบัตรสวัสดิการรอบใหม่นี้ นอกจากมีโจทย์ให้ทำการเพิ่มวงเงิน สวัสดิการต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจำนวนผู้ที่จะได้รับสิทธิก็จะมีเพิ่มเช่นกัน จากปัจจุบันมี 13 ล้านคน อาจเพิ่มเป็นเกือบ 20 ล้านคน




ภาพ TNNOnline  

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง