TNN online "สายชาร์จดูดข้อมูล" ปอท.ระบุยังไม่พบในไทย แนะวิธีป้องกัน?

TNN ONLINE

สังคม

"สายชาร์จดูดข้อมูล" ปอท.ระบุยังไม่พบในไทย แนะวิธีป้องกัน?

สายชาร์จดูดข้อมูล ปอท.ระบุยังไม่พบในไทย แนะวิธีป้องกัน?

บก.ปอท. ระบุยังไม่เคยพบผู้เสียหายถูก "สายชาร์จโทรศัพท์ดูดข้อมูล" ยังไม่พบการนำเข้ามาในประเทศไทย แต่ยอมรับเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่จริง ซื้อขายในตลาดมืดต่างประเทศในราคาสูงเส้นละ 6,000 - 8,000 บาท

บก.ปอท. ระบุยังไม่เคยพบผู้เสียหายถูก "สายชาร์จโทรศัพท์ดูดข้อมูล" ยังไม่พบการนำเข้ามาในประเทศไทย แต่ยอมรับเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่จริง ซื้อขายในตลาดมืดต่างประเทศในราคาสูงเส้นละ 6,000 - 8,000 บาท 


พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ระบุถึง กรณีมีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพ ขโมยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือดูดเงินจากบัญชีธนาคารไปจนหมด โดยสงสัยว่า ต้นเหตุอาจเกิดจากสายชาร์จโทรศัพท์ดูดข้อมูล ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว ปอท.ยังไม่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายโดยตรง และยังไม่ได้นำอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือผู้เสียหายรวมถึงสายชาร์จส่งตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ จึงยืนยันไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ 

แต่ยอมรับว่าอุปกรณ์สายชาร์จดูดข้อมูล มีอยู่จริงซึ่งผลิตออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2561 และใช้งานในกลุ่มนักโปรแกรมเมอร์ สำหรับแก้ไขโปรแกรมต่างๆ รวมถึงดึงรับ ส่งข้อมูลที่ใช้ในทางก่อให้เกิดประโยชน์ แต่มีบางกลุ่มกลับนำมาใช้ในทางที่ผิด 

ทั้งนี้ ปอท.ยืนยัน ถึงสายชาร์จโทรศัพท์ดูดข้อมูล จะสามารถใช้ดึงข้อมูลในโทรศัพท์ได้ แต่ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกเพราะในไทยยังไม่พบมีการนำเข้ามาใช้ เนื่องจากผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะใช้กันในต่างประเทศ อีกทั้งในต่างประเทศก็ยังไม่มีรายงานยืนยันที่แน่ชัดว่าสายชาร์จดูดข้อมูลนี้ถูกนำไปใช้ในกลุ่มมิจฉาชีพ เพราะมีราคาสูงเส้นละ 6,000-8,000 บาท ที่สำคัญอุปกรณ์นี้จะซื้อขายในตลาดมืด

อย่างไรก็ตาม ปอท.เน้นย้ำไปยังประชาชน ถึงในไทยจะยังไม่มีการใช้สายชาร์จดูดข้อมูล แต่ก็มีโอกาสที่มิจฉาชีพจะนำมาใช้ได้ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ต้องมีความรอบคอบ ไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือไปเสียบสายสัญญาณเพื่อต่อเข้ากับคอมพิวเตร์ของคนอื่น

นอกจากนี้ตามสถานที่สาธารณะ ท้องตลาดที่ให้บริการรับชาร์จแบตเตอร์ที่ทั้งแบบเสียตัง และชาร์จฟรี ก็ไม่ควรใช้บริการ หากจำเป็นให้มองหาจุดชาร์จที่มีมาตรฐาน เช่น จุดให้บริการของหน่วยงานราชการ จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล แต่ท้ายที่สุดไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือชาร์จเข้ากับสายที่ไม่ใช่ของตัวเอง





แฟ้มภาพ TNN Online / AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง