ตรวจสอบสถานะ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566” คนผ่านเกณฑ์เริ่มใช้สิทธิ 1 มี.ค.
ตรวจสอบสถานะ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566” ผ่าน-ไม่ผ่านเกณฑ์ คนได้รับสิทธิเริ่มใช้ได้ 1 มี.ค. นี้
ความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมกราคม 2566 ประกาศผลแล้ว มีผู้ลงทะเบียนผ่านจำนวน 19 ล้านคน ไม่ผ่าน ประมาณ 1 ล้านคน และได้ปิดการแก้ไขข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้ลงทะเบียนสามารถ ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
สำหรับในรายที่ไม่พบรายชื่อของตนเอง สามารถยื่นอุทธรณ์ได้อีกครั้ง โดยกระทรวงการคลังจะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15-30 วัน เมื่ออุทธรณ์ผ่าน ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ย้อนหลัง
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 สามารถเริ่มใช้สิทธิใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 66 เป็นต้นไป
เกณฑ์การได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1. ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท
2. ผู้ที่มีรายได้ 30,000 -100,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 200 บาท
- โดยทั้งสองเกณฑ์ จะได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกเดือนละ 500 บาท เงินชดเชยค่าไฟฟ้า (มีเงื่อนไข) ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา(มีเงื่อนไข)ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- เงินเพิ่มเบี้ยสำหรับผู้พิการอีก 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์สามารถยืนยันตัวได้ที่
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
อัปเดตข้อมูล “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เดือนมกราคม 2566 จ่ายอะไรบ้าง
วันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
- วงเงินซื้อสินค้า ตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือนมกราคม 2566)
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 66)
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
* ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
วันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
วันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
“ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ
ข้อมูลจาก : กรมบัญชีกลาง
ภาพจาก : TNN ONLINE