TNN online "เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม" ได้ 4 ช่องทาง ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66

TNN ONLINE

สังคม

"เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม" ได้ 4 ช่องทาง ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66

เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม ได้ 4 ช่องทาง ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66

"เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม" ผู้ประกันตน ม.33 และม.39 ดำเนินการผ่าน 4 ช่องทางได้ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66 ย้ำอย่าลืมใช้สิทธิทำฟันประจำปีวงเงิน 900 บาท

"เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม" ได้ 4 ช่องทางได้ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66



น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลที่รับบริการได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกเนื่องจากอาจมีกรณีย้ายที่ทำงาน หรือที่อยู่อาศัย สำหรับปี 2566 สำนักงานประกันสังคมจะเปิดให้ผู้ประกันตนทั้ง2 กลุ่ม ยื่นขอ  "เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม"   ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค. 66




ช่องทาง "เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม"


 

สามารถดำเนินการผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ 


1) ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 กับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ 


2) ทำรายการผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม  www.sso.go.th


เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม ได้ 4 ช่องทาง ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค.66 "เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม" 

 

 


3) ทำรายการผ่าน Application SSO Connect 



และ 4) ทำรายการผ่าน Line official sso   ทั้งนี้ หากได้ยื่นเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก

 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลนั้นจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ตั้งอยู่ในจังหวัดที่ผู้ประกันตนทำงานหรือพักอาศัย หรือเป็นจังหวัดรอยต่อของจังหวัดดังกล่าวและสถานพยาบาลที่ประสงค์จะย้ายเข้านั้นต้องมีจำนวนผู้ประกันตนไม่เกินตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลได้จากนายจ้าง หรือ เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือ สอบถามที่สายด่วน 1506 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการแจ้งผลการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลประจำปีนั้น กรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผ่านนายจ้าง ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับการแจ้งเป็นหนังสือไปยังที่อยู่ที่ให้ไว้ หรือ แจ้งผลผ่าน SMS

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เหลืออีกไม่นานจะสิ้นปี 2565 แล้ว สำนักงานประกันสังคมยังได้ย้ำเตือนผู้ประกันตนว่าก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. 65 นี้ อย่าลืมใช้สิทธิทำฟันประจำปี ตามที่ผู้ประกันตนมาตรา33 และ มาตรา 39 มีสิทธิทำฟันฟรีในงบไม่เกิน 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในกรณีที่ไปคลินิกที่มีป้าย “ทำฟันประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย” แต่หากไปคลินิกที่ไม่มีป้ายดังกล่าวก็สามารถสำรองจ่ายแล้วนำใบเสร็จมาเบิกกับสำนักงานประกันสังคมได้

 

ทั้งนี้ บริการทำฟันที่ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ ได้แก่ ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุด โดยหากเข้ารับบริการที่คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ค่ารักษาเกินงบ 900 บาท ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินส่วนเกินดังกล่าว  ส่วนเงื่อนไขของการใช้สิทธิได้นั้น จะต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมาแล้วครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการ และหากได้ลาออกจากงานแล้ว ก็ยังสามารถรับบริการทำฟันภายในเวลา 6 เดือนหลังการลาออกได้เช่นกัน

 

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิประกันสังคมเพื่อรับบริการดูแลสุขภาพฟันเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง







หลักเกณฑ์การเลือกสถานพยาบาล

1. การเลือกสถานพยาบาล

  ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิต้องเลือกสถานพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดที่ประจำทำงานอยู่หรือ พักอาศัยอยู่จริง หรือเขตจังหวัดรอยต่อ

2. การเปลี่ยนสถานพยาบาล

  ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิสามารถขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) เปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปีได้ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี (ยื่นแบบได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม เป็นต้นไป)

(2) เปลี่ยนสถานพยาบาลระหว่างปี กรณีมีเหตุจำเป็น เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ประจำทำงาน หรือพิสูจน์ทราบว่ามีการเลือกสถานพยาบาลให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ โดยผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธินั้น ไม่ประสงค์จะไปรับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลดังกล่าว ทั้งนี้ กรณีย้ายที่พักอาศัย หรือย้ายสถานที่ประจำทำงาน ให้ยื่นเปลี่ยนสถานพยาบาลภายในระยะเวลา สามสิบวันนับแต่วันที่ย้ายที่พักอาศัย หรือย้ายสถานที่ประจำทำงาน

3. การกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์

  เมื่อผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิยื่นแบบฯ แล้ว สำนักงานจะกำหนดสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิมีสิทธิไปรับบริการทางการแพทย์ โดยระบุวันเริ่มสิทธิ ดังนี้

   (1) รับแบบฯ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 15 (ก่อน 16.30 น.ของวันที่ 15) กำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์เป็นวันที่ 16 ของเดือนนั้น

   (2) รับแบบฯ ระหว่างวันที่ 16 ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือน (ก่อน 16.30 น.ของวันสุดท้ายของเดือน) กำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์เป็นวันที่ 1 ของเดือนถัดไป





ภาพ TNNonline 


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง