ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65 ผ่านเว็บไซต์ เริ่ม 5 ก.ย. เช็กวิธีการเลยที่นี่
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เริ่มวันที่ 5 ก.ย. - 19 ต.ค. เช็กวิธีการ-เงื่อนไขได้เลยที่นี่
โครงการ ‘ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565’ ( บัตรคนจน)จะเริ่ม เปิดลงทะเบียนวันแรกวันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565 ถึงวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 สำหรับการลงทะเบียนโครงการฯ ปี 2565 ในครั้งนี้จะเป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในปัจจุบันและผู้ที่ไม่เคยมีบัตรฯ จะต้องลงทะเบียนใหม่ทุกคน
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ได้ผ่านช่องทางไหน?
1. ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเว็บไซต์
สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ คลิก https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th ดำเนินการได้ ดังนี้
- กรณีผู้ลงทะเบียนเป็นคนโสดหรือไม่มีครอบครัว
สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยไม่ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ การกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มในเว็บไซต์จะต้องใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชนในการกรอกข้อมูล และข้อมูลอื่น ๆ ที่กำหนด เมื่อลงทะเบียนตามขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วระบบจะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” ขอให้ผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน ผ่านเว็บไซด์อีกครั้ง โดยกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ซึ่งจะทราบผลการลงทะเบียนในวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป
- กรณีผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว
สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์แล้วจะต้องพิมพ์แบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน
รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน
อย่างไรก็ดี หากคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็จะไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
2. ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านหน่วยงาน 7 แห่ง
ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ครบถ้วน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อ
ในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี หากคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็จะไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
สำหรับหน่วยงานรับลงทะเบียน 7 หน่วยงาน ได้แก่
- สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
- ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
- สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต
- ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา
ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านช่องทางใด?
ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ แบบฟอร์มการลงทะเบียนและหนังสือมอบอำนาจสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของโครงการฯ
การเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในครั้งนี้จะจัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก
ผู้สนใจที่จะลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถศึกษาข้อมูลเช่น คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ช่องทางการลงทะเบียน เป็นต้น เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th
นอกจากนี้ ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่มีการเปิดรับลงทะเบียนยังคงได้รับสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่ รวมถึงขยายเวลาการหมดอายุบนหน้าบัตรฯ ออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน จะยังคงได้รับสวัสดิการเหมือนเดิม และสามารถใช้สิทธิได้เหมือนเดิมทุกประการ จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง.
ข้อมูลจาก : กระทรวงการคลัง