‘ฝีดาษลิง’ เปิดภาพชัดๆอาการ 'ผื่นขึ้น' แบบไหนถึงเป็นผู้ติดเชื้อ
ศิริราชเปิดภาพ ผื่นที่เกิดขึ้นจาก ‘โรคฝีดาษลิง’ อาการแบบไหนถึงเป็นผู้ติดเชื้อ ชี้ลักษณะไม่เหมือนที่ระบาดก่อนหน้านี้
เพจเฟซบุ๊กของภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงโดยระบุว่าผื่นฝีดาษลิงที่พบช่วงการระบาดล่าสุดนี้ มีอาการที่คล้ายกับหลายโรค โดยเฉพาะโรคสุกใส (chicken pox ) ก่อนอื่นต้องทราบลักษณะฝีดาษลิงที่ระบาดล่าสุดนี้ก่อน ซึ่งลักษณะผื่นอาจมีความแตกต่างจากผื่นที่มีรายงานก่อนหน้านี้หลายประการ
จากงานวิจัยจากนิตยสาร NEJM ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน โดย J.P. Thornhill และคณะ รวบรวมผู้ป่วยฝีดาษลิงที่ระบาดรอบล่าสุด 528 คน จาก 16 ประเทศ (เมษายน ถึง มิถุนายน 2565) พบว่า
- หลังรับเชื้อฝีดาษลิง >> 3-20 วัน (เฉลี่ย 7 วัน) >> มีอาการ
- พบว่าผู้ป่วย 98% เป็นผู้ช่วยชายที่มีความหลากหลายทางเพศ
ติดต่อกันได้อย่างไรบ้าง?
- ส่วนใหญ่ 95% ผ่านการสัมผัสขณะมีกิจกรรมทางเพศ
- ข้อมูลจาก CDC ฝีดาษลิงสามารถติดต่อผ่านทาง ละอองเสมหะ เมื่อมีการพูดคุยกันเป็นเวลานาน ผ่านสิ่งของปนเปื้อน ผ่านสัตว์ที่ติดเชื้อ ผ่านจากแม่สู่ลูก
ผื่น ‘ฝีดาษลิง’ ขึ้นตรงไหนบ้าง
- ส่วนใหญ่มาพบแพทย์ด้วยตุ่มน้ำและตุ่มหนอง (vesiculopustular 58%)
- พบที่บริเวณอวัยวะเพศ มากที่สุด 73%
- รองลงมาคือที่ตัว แขน ขา หน้า
- มีผื่นที่ ฝ่ามือ ฝ่าเท้าได้ (ผู้ใหญ่ต้องแยกกับซิฟิลิส ส่วนในเด็กต้องแยกจากมือเท้าปาก)
- ส่วนใหญ่พบหลายบริเวณพร้อมกัน และผื่นพบหลายระยะพร้อมกันได้ ตั้งแต่ผื่นแดงนูน ตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง สะเก็ด (ต้องแยกโรคกับสุกใส)
- มีคนที่มาด้วยแผลที่อวัยวะเพศอย่างเดียว โดยไม่มีผื่นที่อื่น 10%*** (ต้องแยกโรคกับซิฟิลิส เริม เป็นต้น)
- มักมีอาการเจ็บที่ผื่น
‘ฝีดาษลิง’ น่ากลัวหรือไม่?
- ไม่มีคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่ 95% รักษาหายด้วยการประคับประคองอาการ ไม่ได้ให้ยาต้านไวรัส
- หายภายใน 2-4 สัปดาห์
ข้อมูลจาก : SirirajDerm
ภาพจาก : AFP/SirirajDerm