ปภ.เตือนพื้นที่ฝนตกหนัก ลมแรง เกิดวาตภัยแล้ว 41 จังหวัด บ้านเสียหายกว่า 5 พันหลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนหลายจังหวัด เฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขณะที่ สถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 41 จังหวัด บ้านเรือนประชาชนเสียหายแล้ว 5,691 หลัง
วันนี้ (1 พ.ค.65) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.00 น.
พื้นที่เฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
>> ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ลำพูน ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี
>> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
>> ภาคกลาง จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
พื้นที่เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ (PM 2.5)
ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
>> ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย)
>> ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (เขตภาษีเจริญ)
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางที่โล่งแจ้ง และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่ วันนี้ เวลา 09.15 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยในช่วงวันที่ 28 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 เกิดสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 41 จังหวัด รวม 181 อำเภอ 518 ตำบล 1,308 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,691 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (สุรินทร์) ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (กาฬสินธุ์) แยกเป็น
- ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ ตาก พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง และนครสวรรค์ รวม 46 อำเภอ 103 ตำบล 236 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,159 หลัง
- ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี ราชบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และปทุมธานี รวม 45 อำเภอ 145 ตำบล 276 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 996 หลัง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา ยโสธร อุดรธานี ชัยภูมิ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และหนองบัวลำภู รวม 85 อำเภอ 260 ตำบล 763 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,438 หลัง
- ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 98 หลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ได้ทุกที่ทุกเวลา.
ข้อมูลและภาพจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
