สำเร็จแล้ว!ยานต้นแบบ SpaceX ไม่ระเบิด หลังลงจอด

วันนี้ ( 6 พ.ค. 64 )ผู้สื่อข่าวรายงานการทดสอบยานต้นแบบ Starship SN15 ที่เมืองโบคา ชิกา รัฐเท็กซัส เมื่อวานที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ   จรวดถูกปล่อยจากฐานบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ด้วยการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ Raptor จำนวน 3 เครื่อง ที่ระดับความสูง 10 กิโลเมตร

เมื่อใกล้ถึงระดับสูงสุด ก็ทยอยดับเครื่องยนต์ทีละเครื่อง พอจรวดบินถึงระดับความสูง 10 กิโลเมตร  ก็สลับไปใช้เชื้อเพลิงจาก Header tanks หรือถังส่วนหัวที่อยู่ใน Nosecone หรือหัวจรวด เพื่อใช้ในการลงจอด และปรับทิศทางให้ยานตกลงสู่โลกได้อย่างอิสระ โดยให้ท้องของยานอยู่ในแนวนอน หรือเรียกว่า belly flop เพื่อให้ปีกทั้ง 4 ควบคุมทิศทาง

พอใกล้จะถึงพื้นก็กลับมาเปิดเครื่องยนต์ 1 เครื่อง  พลิกกลับยานให้อยู่ในแนวตั้ง จากนั้นเปิดเครื่องยนต์ที่ 2 แล้วเร่งขับแรงดันให้ตัวยานสามารถค่อยๆ ลงจอดผลปรากฎว่า ยาน Starship SN15 สามารถลงจอดได้อย่างนุ่มนวลปลอดภัย ถือเป็นการลงจอดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกโดยไม่เกิดการระเบิด เหมือนการทดสอบก่อนหน้านี้ แม้ว่าเกิดไฟลุกไหม้ที่ฐานเล็กน้อย หลังจาก SN15 ลงจอด แต่ไฟก็ดับลงในเวลาต่อมา โดยไม่เกิดระเบิดขึ้น เรื่องนี้ จอห์น อินสปรัคเกอร์ วิศวกรของ SpaceX เปิดเผยว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติของยานที่ใช้เชื้อเพลิงมีเทน นี่เป็นการทดสอบการบินระดับสูงของยาน Starship SN15 หลังจากมีการทดสอบบินเบื้องต้นไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

Startship SN15 เป็นต้นแบบของจรวดบรรทุกหนัก ที่จะถูกใช้บรรทุกมนุษย์และสินค้ากว่า 100 ตัน เพื่อภารกิจเดินทางยังดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต

Elon Musk CEO ของ SpaceX ทวีตข้อความด้วยความยินดีและภูมิใจที่ในที่สุดยานต้นแบบของเขาก็สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดการระเบิดขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้วมัสก์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ยานต้นแบบรุ่นก่อนๆ ระเบิดขณะลงจอด รวมถึงเกิดจากการรั่วไหลของเชื้อเพลิงตรงเครื่องยนต์ตัวที่ 2  ดังนั้นจึงมีการนำข้อบกพร่องต่างๆ มาแก้ไขพัฒนาในยานต้นแบบ Starship SN15  อย่างเต็มที่ด้วยผ่านการออกแบบหลายร้อยครั้ง ทั้งโครงสร้าง ระบบการบิน ซอฟต์แวร์และเครื่องยนต์ 

-เดือนธันวาคมปีที่แล้ว SpaceX ทดสอบการบินของยานต้นแบบ Starship แบบประกอบเต็มลำเป็นครั้งแรก  และเป็นครั้งแรกที่ทดสอบบินระดับที่ระดับความสูงกว่า 12 กิโลเมตร  ปรากฏว่ายาน Starship SN8 เกิดระเบิดไฟลุกท่วมขณะลงจอด หลังเสร็จสิ้นการทดสอบบิน

-เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยาน Starship SN9  ประสบความสำเร็จในการทดลองบินในระดับสูง 10 กิโลเมตร แต่ดิ่งกระแทกพื้นขณะลงจอดในวันเดียวกัน

- ต้นเดือนมีนาคม ยาน Starship SN10  หลังจากบินทดสอบระดับความสูง 10 กิโลเมตรเป็นไปด้วยดี  ระหว่างลงสามารถพลิกตัวยานกลับมาลงจอดได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่หลังจากจอดอยู่บนฐานได้ 9-10 นาทีก็เกิดการระเบิดขึ้น แต่ก็นับว่าการบินทดสอบครั้งนั้นใกล้ความจริงที่สุด

- ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา SN11 เกิดระเบิดระหว่างการพลิกตัวลงจอดในแนวตั้ง  นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของอีลอน มัสก์ ที่ใฝ่ฝันอยากจสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารในอนาคตอันใกล้ และให้สัญญาว่าจะจัดทัวร์ไปดวงจันทร์ในอีก 2 ปีข้างหน้า

 ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มัสก์เพิ่งจะให้สัมภาษณ์ว่า  จะมีคนต้องสังเวยชีวิตอีกจำนวนมาก กว่าภารกิจการพิชิตดาวอังคารจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังคงยืนยันว่าภารกิจนำมนุษย์ขึ้นไปดาวอังคารจะต้องสำเร็จภายในปี 2026  หรืออีก 5 ปีข้างหน้า

เมื่อพูดถึงความสำเร็จอีกขั้นของ SpaceX แล้ว คงต้องพูดถึงความก้าวหน้าของคู่แข่งสำคัญอย่าง Blue Origin บ้าง

Blue Origin บริษัทอวกาศของมหาเศรษฐีดังเจ้าของบริษัทแอมะซอน อย่าง เจฟฟ์ เบซอส เตรียมเปิดขาย “บัตรท่องอวกาศ” แล้วเมื่อวนนี้ (5 พฤษภาคม)  โดยเป็น “ทัวร์ชมอวกาศ” ด้วยยาน New Shepard   และเตรียมจะประกาศรายละเอียดของราคาที่นั่ง, การจับจอง และการเดินทางเที่ยวแรก ในเร็วๆ นี้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดของทางบริษัทมายาวนานหลายปี

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อปี 2018 ว่า Blue Origin วางแผนที่จะเก็บค่า “ตั๋วชมอวกาศ” มากถึง 200,000 ดอลลาร์ ต่อที่นั่ง ในการขึ้นไปนอกโลก (หรือมากกว่า 6 ล้านบาท) 

สำหรับจรวดและแคปซูล New Shepard ได้รับการออกแบบให้บรรทุกผู้โดยสารได้ 6 คน โดยจะขึ้นไปเหนือพื้นโลกราว 100 กิโลเมตร ซึ่งนับว่าสูงเพียงพอที่จะได้รับประสบการณ์ “ภาวะไร้น้ำหนัก” และได้เห็นโลกจากมุมมองข้างบน ก่อนที่จะกลับลงมาบนผิวโลกอีกครั้ง 

โดยผู้โดยสารทั้ง 6 คน จะมีหน้าต่างส่วนตัวคนละบาน ซึ่ง Blue origin ระบุว่า หน้าต่างสูงกว่า เครื่องบิน Boeing 747 jetliner มากเกือบ 3 เท่า