โฆษกรัฐบาลยันครม.อนุมัติฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเดินหน้าปูพรมมิ.ย.นี้

วันนี้ (12พ.ค.64) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้(11พ.ค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีมติอนุมัติให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเพื่อรณรงค์ให้มี การฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นและสร้างความเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะสามารถจัดหาวัคซีนทันต่อสถานการณ์ โดยในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญชวนประชาชน ออกมาฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และลดความรุนแรงจากการติดเชื้อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายอนุชายืนยันว่าขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ส่วนมากได้รับการฉีดวัคซีนครบเกือบทั้งหมดแล้ว อีกทั้งยังมีการลงทะเบียนผ่านไลน์หมอพร้อม ในกลุ่มผู้สูงวัยและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว7กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้าฉีดเพิ่มเติม ให้กับบุคลากรส่วนอื่นๆ ที่ต้องเดินทางบ่อยพบปะกับคนจำนวนมากๆ อาทิ พนักงานส่งของ ผู้ขับรถสาธารณะพนักงานขายร้านสะดวกซื้อ ผู้ให้บริการในร้านอาหาร พนักงานด้านการท่องเที่ยว และโรงแรมเป็นต้น 

รัฐบาลมีความมุ่งมั่นว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะสามารถปูพรมฉีดวัคซีน ซึ่งจะเปิดให้องค์กรต่างๆจัดสรรพนักงานที่มีความเสี่ยงทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานครได้จัดตั้ง 14 ศูนย์ และจะเดินหน้าเพิ่มเติมเป็น 25 ศูนย์ เพื่อให้บริการกับประชาชนทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย

สำหรับการจัดหาวัคซีนในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการทยอยเข้ามา 3.5 ล้านโดส เดือนมิถุนายน 6 ล้านโดส ซึ่งจะได้รับเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือน และยังคงการเจรจาจัดหาวัคซีนกับผู้ประกอบการรายอื่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มเป้าหมายในการจัดหาวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านโดส จากเดิม 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 นี้ ด้านการติดต่อสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการหารือกับผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งยืนยันว่าจะมีการสำรองการผลิตวัคซีนให้กับประเทศไทย ในไตรมาสที่ 3 กว่า10ล้านโดส โดยขอส่งให้กับรัฐบาลก่อนและภายหลังขึ้นทะเบียนอย. จึงจะเปิดให้เอกชนเจรจาสั่งซื้อได้