TNN online นายกฯเล็งช่วยกลุ่มรายได้น้อยอุ้มค่าก๊าซ-ค่าไฟ-น้ำมันวินจยย.

TNN ONLINE

การเมือง

นายกฯเล็งช่วยกลุ่มรายได้น้อยอุ้มค่าก๊าซ-ค่าไฟ-น้ำมันวินจยย.

นายกฯเล็งช่วยกลุ่มรายได้น้อยอุ้มค่าก๊าซ-ค่าไฟ-น้ำมันวินจยย.

นายกฯเตรียมช่วยกลุ่มเปราะบาง-รายได้น้อย อุ้มค่าก๊าซ LPG-ค่าไฟฟ้า,น้ำมันเบนซินวินมอเตอร์ไซค์

วันนี้ (16 มี.ค. 65)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรไปก่อน โดยใช้กองทุนน้ำมันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้มีเงินอยู่กว่า 3 หมื่นล้านบาท และได้ใช้จนเกือบหมดแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันและต้องกำหนดมาตรการต่อไป และหากตรึงราคาไปจนถึงที่สุดที่งบประมาณที่มีอยู่แล้ว ก็อาจต้องมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนด้วย เพราะยังอยู่ในช่วงวิกฤติ 

"ขณะนี้ ราคาน้ำมันยังมีความผันผวน สิ่งสำคัญต้องขอความร่วมมือจากทุกคน หากยังมีความขัดแย้ง วิกฤตการณ์ตรงนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้ ถ้าไม่เข้าใจและไม่ร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาล และทุกกระทรวงพยายามช่วยกันเต็มที่" นายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมระบุว่า สำหรับการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อยนั้น ได้เตรียมการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเบื้องต้นจะบรรเทาผลกระทบราคาค่าก๊าซหุงต้มให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และจะมีมาตรการการช่วยเหลือก๊าซหุงต้มสำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง รวมไปถึงการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า การช่วยเหลือผู้น้ำมันเบนซินสำหรับกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีในช่วงที่มีวิกฤติพลังงานไปก่อน

 นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ผู้ประกอบการว่า จะมีมาตรการช่วยลดค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกำลังให้กองทุนประกันสังคมไปดำเนินการ ส่วนกรณีที่ขาดแคลนแรงงานก็จะพิจารณาขึ้นทะเบียนเพื่อจัดหาแรงงานต่างด้าวให้เข้ามาเพิ่มเติม

ส่วนการแก้ปัญหาด้านการเกษตร เช่น ปัญหาราคาปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้นนั้น ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณามาตรการช่วยเหลือ ควบคุมต้นทุนการผลิต

"ที่ผ่านมา ไทยมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ขณะนี้หลายประเทศเก็บไว้ ไม่ปล่อยขาย เพราะเจอสถานการณ์ผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งไทยต้องแก้ปัญหาด้วยการปรับไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยสังตัดให้มากขึ้น ให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด เพื่อลดต้นทุนการผลิตเกษตรกรและปรับเปลี่ยนบางมาตรการ ส่วนเรื่องอาหารสัตว์ จำพวกข้าวโพด ข้าวสาลี ไทยมีฐานผลิตพอสมควร จึงต้องดึงมาใช้ในประเทศไปพลางก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

  ทั้งนี้ มาตรการการช่วยเหลือทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยแต่ละหน่วยงาน ซึ่งได้มีการหารือมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง

 สำหรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาไข่ไก่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลควบคุมราคา แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วยเช่น โดยต้องดูให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมขอร้องภาคธุรกิจเอกชนต่างๆ ให้ช่วยลดกำไรลงบ้าง

ภาพจาก : Thaigov

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง