TNN online 18 จังหวัดอ่วม ! น้ำท่วมหนัก คมนาคมเล็งของบกลางซ่อมแซมถนนพังวงเงิน 6.3 พันล้าน

TNN ONLINE

ภูมิภาค

18 จังหวัดอ่วม ! น้ำท่วมหนัก คมนาคมเล็งของบกลางซ่อมแซมถนนพังวงเงิน 6.3 พันล้าน

18 จังหวัดอ่วม ! น้ำท่วมหนัก  คมนาคมเล็งของบกลางซ่อมแซมถนนพังวงเงิน 6.3 พันล้าน

“ศักดิ์สยาม” เผย 18 จังหวัดน้ำท่วมหนักเส้นทางคมนาคมเสียหายรถวิ่งสัญจรไม่ได้หลายเส้นทาง เล็งขอจัดของบกลาง 6.3 พันล้าน ซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย  และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน ผู้ประสบอุทกภัย 5 ตำบล ในจังหวัด พระ นครศรีอยุธยา บริเวณ ตลาดเกรียบ อำเภอบางปะอิน  2,500   ครัวเรือนว่า  สถานการณ์ภาพรวมน้ำท่วมได้ส่งผลกระทบต่อเส้นทางคมนาคมทั้งโครงข่ายทางหลวง  ทางหลวงชนบท รวมถึงทางราง  ได้รับน้ำท่วม และดิน


โดยในส่วนของทางหลวงได้รับผลกระทบทั้งหมด 18  จังหวัด  รวม 108 แห่ง การจราจรผ่านได้ 88 แห่ง ผ่านไม่ได้ 20 แห่ง ขณะที่สายทางของกรมทางหลวงชนบท มีสายทางที่ได้รับผลกระทบรวม 64 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 35 แห่ง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 29 แห่ง 


ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ในส่วนถนนที่ประสบอุทกภัยเดิม ซึ่งเป็น ถนนของชลประทาน และได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ครั้งนี้  โดยเส้นทางพบว่าถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตร  โดยได้สั่งการให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งทำ การสำรวจโดยเร็ว  ส่วนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพบว่า ถนนที่เสียหาย ส่วนใหญ่ เป็นถนน สายที่เลียบแม่น้ำ ในกำกับของกรมทางหลวง (ทล.)  


สำหรับมูลค่าความเสียหายขณะนี้ ยอมรับว่า ยังทราบตัวเลขได้ยาก จนกว่าระดับน้ำทั้งหมดจะลดถึงจะเข้าสำรวจโดยละเอียด  โดยขอให้ ทั้ง ทล.และ ทช. สรุปรายงานผลสำรวจทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี แต่เป็นทุกจังหวัดทั่วประเทศ  ภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้  


โดยย้ำว่าแนวทางการสำรวจก็ยังเป็น 2 แนวทาง คือ สำรวจจุดที่มีความเสียหาย เพื่อซ่อมแซม  และจุดที่โครงการถนนต่างๆ ไปกีดขวางทางน้ำ สร้างผลกระทบทำให้เกิดอุทกภัย ทั้งโครงการใน อดีต และปัจจุบัน  เพื่อทำการปรับปรุง ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 



นอกจากนี้ได้แจ้งให้ประชาชนได้รับทราบนโยบายของรัฐเตรียมเปิดประเทศของรัฐบาล  1 พ.ย.นี้  ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่มรดกโลกมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากจึงต้องให้ความสำคัญปลอดภัย  ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 โดยประชากรในจังหวัดอยุธยา มีการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 80%    และในระหว่างนี้ สามารถเพิ่มตัวเลขดังกล่าวขึ้นอีก เพราะปริมาณวัคซีน ที่กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลจัดหาปีนี้ 120 ล้านโดส ถือว่ามีเพียงพอ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น


ด้านความคืบหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือไทย-จีน ซึ่งที่ผ่านมา เคยติดปัญหาเรื่องการก่อสร้างสถานี เนื่องจากเป็นพื้นที่มรดกโลก  ขณะนี้ กระทรวงคมนาคม ได้แก้ปัญหาจบสิ้นแล้ว โดยยืนยันว่า การก่อสร้าง จะยึดแนวเส้นทางเดิม  โดยมีเพียงการลดขนาดสถานี และความสูงของโครงสร้างทางวิ่งลง ซึ่งโครงการในระยะที่ 1 ที่ผ่านอยุธยานี้ จะแล้วเสร็จ ในปี 68 ตามแผนเดิมแน่นอน 


ส่วนโครงการส่วนต่อขยาย รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นต่อจากนครราชสีมา –หนองคาย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคม ทำการสำรวจ-ออกแบบนั้น  กำลังดำเนินการ รวมทั้ง ในปลายปีนี้กระทรวงคมนาคม เตรียมร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่  30 ซึ่งก็มั่นใจว่า ภาพร่วม จะช่วยให้โครงการรถไฟความเร็วสูง  ความร่วมมือไทย-จีน จะเดินหน้าได้ตามแผนที่กระทรวงคมนาคมวางไว้  


สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ (21 ต.ค.) นอกจากจะตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยบนทางหลวงชนบท  ที่วัดทำใหม่ ตำบลปากกราน และที่โรงเรียนบ้านคลองตะเคียน (วันครู)ตำบลตะเคียน  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่ว่าการอำเภอสามโคกหลังเก่า จังหวัดปทุมธานี และที่วัดพลับสุทธาวาส จังหวัดปทุมธานีแล้ว ยังใช้โอกาสดังกล่าว เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย 


พร้อมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ด้วย และยังได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างขยายช่องทางจราจร ทางหลวงหมายเลข 3056 เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างคล่องตัว


นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมทางหลวงได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของถนนทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พบว่า ถนนทางหลวงทั่วประเทศได้รับความเสียหายรวม 235 แห่ง ใช้งบประมาณกว่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม ก่อนเข้า ครม. เพื่อของบกลาง มาทำการปรับปรุงหลังน้ำลด ซึ่งการซ่อมแซม ฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพ ทั้งปรับปรุง แก้ไข ระบบรายน้ำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นให้มีการซ่อมแซมแบบใช้งานได้ระยะยาว


นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รักษาการอธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) กล่าวว่า ทช.ได้สรุปความเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. -20 ต.ค.  64 พบถนนทางหลวงชนบท เสียหายใน 46 จังหวัด โดย ทช.จะเสนอใช้งบประมาณงบกลางปี 65 ในการซ่อมแซมถนนจำนวน 101 สายทาง งบประมาณ 1,513.160 ล้านบาท ฟื้นฟูน้ำท่วมครั้งนี้ภายหลังระดับน้ำลดเข้าสู่สภาวะปกติ  และหลังจากได้รับงบประมาณจะดำเนินการซ่อมแซมฟื้นฟูให้แล้วเสร็จ ภายใน 6 เดือน (180 วัน)

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง