จบดรามา! ร้านบุฟเฟ่ต์ซูชิกินในรถ ปรับขายไดร์ฟทรู ลดเหลือเมนูละ 20

วันนี้ (3 พ.ค.64) หลังสร้างความฮือฮา เปิดให้บริการไดร์ฟอินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเป็นเจ้าแรกในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปรับตัวและหาทางรอดให้ธุรกิจ หลัง ศบค.ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยให้จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในกลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสูงและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน ให้ซื้อกลับเท่านั้น และเปิดขายได้ถึงเวลา 21.00 น. โดยบริการไดร์ฟอิน กินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นในรถ กินแบบไม่อั้นในเวลา 2 ชั่วโมง จ่ายเพียงคนละ 500 บาท รับเพียงรอบละ 5 คัน วันหนึ่งเปิด 6 รอบ 

แต่ล่าสุดร้านไดโซะ ซูชิ  ก็ต้องยุติบริการไดร์ฟอิน เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ให้ลูกค้ากินในรถแล้ว หลังเปิดให้บริการมาได้เพียง 2 วัน เนื่องจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาแล้วว่ายังมีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด19

กระทั่ง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งด่วนที่สุดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ซึ่งในหนังสือระบุถึงการจัดบริการบุฟเฟ่ต์กินในรถ ว่า คณะกรรมการโรคติดต่อฯ พิจารณาแล้วว่ารูปแบบนี้ยังมีความสุ่มเสี่ยงแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางร้านจึงต้องปรับเปลี่ยนการขายเป็นแบบไดร์ฟทรูแทน และปรับราคาขายเหลือเพียงเมนูละ 20 บาท    

โดยบรรยากาศที่ร้านไดโซะ ซูซิ บริเวณถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ใกล้สี่แยกรวมโชค อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในช่วงเที่ยงวันนี้ มีลูกค้าเดินทางมาซื้ออาหารญี่ปุ่นแบบไดร์ฟทรูกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางร้านให้ลูกค้านำรถมาจอดรอที่ลานจอดรถ จากนั้นพนักงานจะให้ลูกค้าสแกนคิวอาร์โค้ด และสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อนำกลับไปกินที่บ้าน 

นายนิรุทธิ์ แก้วคำฟู เจ้าของร้านไดโซะ ซูชิ กล่าวว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และช่วยหยุดการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้ปรับการขายมาเป็นแบบไดร์ฟทรูแทน เพื่อให้ลูกค้าซื้ออาหารนำกลับไปทานที่อื่น โดยได้ปรับราคาขายอาหารทุกเมนูในราคา 20 บาทเท่านั้น เพื่อให้พนักงานยังมีงานทำ และระบายวัตถุดิบซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารสดที่ซื้อไว้รวมเกือบ 1 ล้านบาทให้หมดไป ดีกว่าปล่อยให้ค้างสต็อกจนเสียหาย

หลังจาการปรับเปลี่ยนมาขายแบบไดร์ฟทรู จอดรถซื้อกลับบ้าน แต่ด้วยราคาอาหารญี่ปุ่นที่ขายเพียง 20 บาท ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการปรับตัวเพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดในภาวะวิกฤตเช่นนี้