รวบหนุ่มกัมพูชา หอบสินสอดจะไปแต่งสาว สุดท้ายไม่รอดถูกจับระหว่างทาง

รวบ 3 หนุ่มกัมพูชา ทำงานอยู่ในไทย 5 ปีหอบเงินค่าสินสอดจะกลับไปแต่งงานกับคนรัก แต่ถูกจับระหว่างลักลอบกลับปท.

วันนี้ (12 ก.พ.64) พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ให้ทำการป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมาย และการลักลอบนำเอาสิ่งผิดกฎหมายต่างๆข้ามชายแดนทางด้านจังหวัดสระแก้วในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเข้มงวด จึงได้สั่งการให้ พ.ท.ณัฐพล ม้วนเงิน รองผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และพ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 1205 ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนอย่างเข้มงวด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านหนองสังข์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนธนวิถีหมายเลข 358 สาย อรัญ-ตราพระยา พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาที่จุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นพบว่ามีนายพายัพ อายุ 63 ปี ชาวอ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี เป็นคนขับ ภายในรถมีชาวกัมพูชาจำนวน 3 คนนั่งโดยสารมาด้วย โดยชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนมีหนังสือเดินทางประเภทพลาสปอรต์ แต่หมดอายุแล้ว เจ้าหน้าทีจึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนและคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กองร้อยทหารพราน 1205 อย่างละเอียด

รวบหนุ่มกัมพูชา หอบสินสอดจะไปแต่งสาว สุดท้ายไม่รอดถูกจับระหว่างทาง

จากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชาชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าได้เดินทางเข้ามาทำงานก่อสร้างที่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเวลา 5 ปีแล้ว หลังจากเก็บเงินได้เป็นที่พอในและพอกับค่าสินสอด ซึงพวกตนนัดหมายกับแฟนสาวและญาติๆในประเทศกัมพูชาว่าในช่วงตรุษจีนปีนี้จะเดินทางไปแต่งงานตามที่รับปากไว้ ขอให้ญาติๆเตรียมจัดงานแต่งไว้รอได้เลย หลังจากนัดหมายกับแฟนและญาติๆแล้วพวกตนก็ติดต่อให้คนไทยมารับไปส่งที่ชายแดนไทยกัมพูชาทางด่านจังหวัดสระแก้ว

เมื่อถึงชายแดนแล้วพวกตนก็จะลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติกลับไปฝั่งประเทศกัมพูชา แต่มาถูกจับเสียก่อน ส่วนนายพายัพ ยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากคนขับวินเมอร์เตอร์ไซค์ในอำเภอโคกสูงให้มารับชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนที่บริเวณหน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อพามาส่งที่ชายแดนอำเภอโคกสูง โดยได้เงินค้าโดยสารจากชาวกัมพูชาคนละ 1,000 บาท ทำมาหลายครั้งแล้ว หลังสอบสาวนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เกาะติดข่าวที่นี่