ชาวนาตัดใบตองขายสู้ภัยแล้ง หลังขาดแคลนน้ำทำนา

ชาวนาตัดใบตองขายสู้ภัยแล้ง หลังขาดแคลนน้ำทำนา หันมาเข้าสวน ปลูกกล้วยตัดใบตอง แล้วยังมีเครือกล้วย และหัวปลีขายได้อีกด้วย

2 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าว รายงานที่บ้านเลขที่ 1/11 หมู่ 4 ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พบนายพิชัย กล้าหาญ หรือผู้ใหญ่ดุ่ย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ชาวนาที่ปรับตัวสู้ภัยแล้งหลังน้ำน้อยลดการทำนา จึงมาทำสวนปลูกกล้วย เพื่อตัดใบตองขาย มีรายได้ทุกวัน หลังกระทบภัยแล้งต้องหยุดการทำนา 30ไร่ แต่ยังมีสวนกล้วยอีก12ไร่ ในการสู้ภัยแล้ง ที่ยังสร้างรายได้ โดยการตัดใบตองขาย ช่วงนี้ใบตองขายได้ราคาสูงขึ้น เพราะใกล้หน้าเทศกาลตรุษจีน ซึ่งต้องนำใบตองไปห่อขนมไหว้ตามเทศกาล ช่วงนี้ใบตองอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 20บาท แถมยังมี เครือกล้วย และหัวปลี ที่ขายได้สร้างรายได้ในช่วงภัยแล้ง

ชาวนาตัดใบตองขายสู้ภัยแล้ง หลังขาดแคลนน้ำทำนา

นายพิชัย (ผู้ใหญ่ดุ่ย) เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีอาชีพทำนา และทำสวน ปลูกกล้วยขายใบตองควบคู่กันไป ในช่วงนี้เกิดปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำนา จึงหันมาดูแลสวนกล้วยที่ปลูกไว้จำนวน12ไร่อย่างเต็มที่ ทำให้พอมีรายได้ในช่วงหยุดการทำนา ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงบ้าน นอกจากขายใบตองแล้วยังมีเครือกล้วย และหัวปลีขายได้อีกด้วย ซึ่งทำให้แต่ละวัน ครอบครัวจะมีรายได้ 800-1000 บาท ทุกวันหลังจากต้องหยุดทำนา ซึ่งการปลูกกล้วยนั้น ใช้น้ำน้อย ทนแล้ง ในช่วงนี้ก็มีรายได้ทุกวัน แต่กลัวพายุฤดูร้อน พัดกระหน่ำทำให้สวนกล้วยเสียหาย ใบแตก และกล้วยล้ม ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติ ต่อไป

ชาวนาตัดใบตองขายสู้ภัยแล้ง หลังขาดแคลนน้ำทำนา