TNN คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไร?

TNN

Health

คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไร?

คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไร?

สำหรับการรับประทานวิตามินซีให้ผิวสวย เสริมสร้างคอลลาเจน ต้องทานวิตามินซีในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และมีอาหารที่ไม่ควรกินคู่กันอยู่หลายประเภท

“คอลลาเจน” เป็นโปรตีนที่มีอยู่ทั่วร่างกายในปริมาณร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว คอลลาเจนมีหน้าที่ในการป้องกันอวัยวะภายในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่าง ๆ ให้อยู่ด้วยกัน และในชั้นหนังแท้ก็มีคอลลาเจนเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวให้เต่งตึง กระชับ ป้องกันผิวเหี่ยวย่นและรอยตีนกา


จริง ๆ แล้ว ร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นมาเองได้ แต่ร่างกายจะลดการสังเคราะห์คอลลาเจนเมื่ออายุ 20 ปี โดยปริมาณจะลดลงร้อยละ 1 ในทุก ๆ ปี และการสังเคราะห์จะหยุดลงเมื่ออายุ 45-50 ปี จึงทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นน้อยลง ชั้นหนังแท้เริ่มบางลงไม่เก็บกักน้ำให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังเหมือนเดิม 


นอกจากนี้ ไขมันบางส่วนจะลดลง เป็นสาเหตุให้ผิวบาง เหี่ยวย่นเกิดริ้วรอย การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยชะลอความเสื่อมของผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีวิตามินซีสูง เนื่องจากวิตามินซี มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน 


สำหรับการรับประทานวิตามินซีให้ผิวสวย เสริมสร้างคอลลาเจน ต้องทานวิตามินซีในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม/วัน


สิ่งที่ไม่ควรกินพร้อมกับคอลลาเจน มีดังนี้


1. ผลไม้น้ำฉ่ำคู่ปรับคอลลาเจน


ผลไม้ฉ่ำน้ำ เรียกความสดชื่น แก้กระหาย อย่างแตงโม แตงกวา แคนตาลูป เมลอน สับปะรด ส้มโอ ไม่แนะนำให้กินพร้อมกับคอลลาเจนค่ะ แม้ผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นหลายชนิดที่ดีต่อผิวและสุขภาพ แต่มีน้ำมาก จึงกระตุ้นให้ร่างกายขับปัสสาวะ จึงทำให้คอลลาเจนดูดซึมได้น้อยหรือถูกขับออกไปด้วย


2. คอลลาเจนไม่เป็นมิตรกับน้ำตาล 


เพราะโมเลกุลน้ำตาลจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกาย ซึ่งเราเรียกกระบวนการนี้ว่า  Advance Glycation End Products (AGEs) ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายด้วยค่า


3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือศัตรูตัวฉกาจ


อีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจของคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกาย รวมถึงคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมก็คือ เจ้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่เลย! ไม่เพียงทำให้ผิวแห้งกร้านขาดน้ำ ยังไปขัดขวางการดูดซึมคอลลาเจนที่คุณกิน และทำลายคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวเหี่ยว หน้าแก่กว่าวัยไปอีก


ขอบคุณข้อมูลจาก: รพ.นวเวช , trueid

ข่าวแนะนำ