5 สัญญาณเตือน อาการติดเชื้อ "HIV" เบื้องต้น เป็นแบบไหน มีอะไรบ้าง?
เปิด 5 สัญญาณเตือน อาการติดเชื้อ "HIV" เบื้องต้น เป็นแบบไหน มีอะไรบ้าง?
เอชไอวี (HIV) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ที่มีหน้าที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ได้รับเชื้อ HIV จะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานบกพร่อง และหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที จะทำให้ระดับเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ในร่างกายลดจำนวนลงเรื่อยๆ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไร้ประสิทธิภาพ และไม่สามารถต้านทานกับเชื้อโรคต่างๆ ได้ ซึ่งหากระดับเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ต่ำกว่า 200 แล้ว ผู้ป่วยก็จะพัฒนาไปสู่การเป็น “โรคเอดส์ (AIDS)” ได้
สัญญาณเตือน อาการติดเชื้อ "HIV" เป็นแบบไหน?
การรับเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกายถือเป็นเรื่องที่สังเกตได้ยาก ซึ่งจะถูกแบ่งไว้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
• อาการของผู้ติดเชื้อระยะเฉียบพลัน
อาการของผู้ติดเชื้อระยะเฉียบพลัน หรือผู้ที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายประมาณ 1-4 สัปดาห์ จะมี 5 อาการ สัญญานเตือนเบื้องต้น ดังนี้
1. อ่อนเพลีย
2. มีอาการคั่นเนื้อคั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้อยู่ตลอดเวลา
3. ผู้ป่วยบางรายอาจมีผื่นขึ้นตามร่างกาย
4. มีอาการท้องเสียติดต่อกันหลายวันโดยไม่ทราบสาเหตุ
5. มีอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้คอ รักแร้หรือขาหนีบ บวมโดยหาที่มาไม่ได้
• อาการของผู้ติดเชื้อระยะแฝง
อาการของผู้ติดเชื้อระยะแฝง คือผู้ที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายประมาณ 2-10 ปีขึ้นไป ไม่มีอาการผิดปกติต่อร่างกาย
• อาการของผู้ติดเชื้อระยะเอดส์
อาการของผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่ระยะเอดส์ จะมีอาการเบื้องต้นคือ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืดบ่อยครั้ง น้ำหนักลด มีผื่นคันขึ้นบนร่างกาย เมื่อเกิดบาดแผลมักหายช้ากว่าปกติ
ที่มาข้อมูล : ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย (คลีนิคนิรนาม)
ที่มาภาพ : freepik/jcomp