TNN ไขข้อข้องใจ กลืนเม็ดผลไม้เสี่ยงเป็น "ไส้ติ่งอักเสบ" จริงหรือไม่?

TNN

Health

ไขข้อข้องใจ กลืนเม็ดผลไม้เสี่ยงเป็น "ไส้ติ่งอักเสบ" จริงหรือไม่?

ไขข้อข้องใจ กลืนเม็ดผลไม้เสี่ยงเป็น ไส้ติ่งอักเสบ จริงหรือไม่?

พามาไขข้อข้องใจ การกลืนเม็ดผลไม้ เสี่ยงเป็น “ไส้ติ่งอักเสบ” จริงหรือไม่?

เชื่อว่าหลายๆ คนคงคุ้นเคยดีกับประโยคที่ว่า “หากกลืนเม็ดฝรั่งเข้าไป จะทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบได้...”  ซึ่งความเชื่อนี้อยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนาน แต่จะจริงเท็จแค่ไหน บทความนี้จะพาคุณมาไขข้อข้องใจว่า “การกลืนเม็ดผลไม้” เสี่ยงเป็น “ไส้ติ่งอักเสบ” จริงหรือไม่? ตามมาดูกันเลย


ทำความรู้จักไส้ติ่งอักเสบ

อันดับแรกเราจะพามารู้จักกันก่อนว่า ไส้ติ่งอักเสบ คืออะไร? ไส้ติ่งอักเสบ เป็นภาวะที่รูท่อของไส้ติ่งเกิดการอุดตัน ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากการกินอาหาร การสะสมของแบคทีเรียบริเวณลำไส้ จนเกิดเป็นการอักเสบขึ้นมา ซึ่งภาวะไส้ติ่งอักเสบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัย ทั้งชายและหญิง และเมื่อเป็นแล้วจะเกิดอาการปวดท้องที่ทรมานมาก หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ภาวะ “ไส้ติ่งแตก” เกิดการติดเชื้อในเยื่อบุช่องท้อง กระแสเลือด และอาจเสียชีวิตได้ 


“การกลืนเม็ดผลไม้” เสี่ยงเป็น “ไส้ติ่งอักเสบ” จริงหรือไม่?

สำหรับความเชื่อที่ว่า “หากกลืนเม็ดผลไม้เข้าไป จะทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบ” จากสถิติในทางการแพทย์ ไม่เคยพบว่ามีเมล็ดฝรั่งหรือเมล็ดผลไม้อยู่ในไส้ติ่ง หรือกรณีที่เม็ดผลไม้ทำให้ไส้ติ่งอักเสบแต่อย่างใด 

แต่ถ้าถามถึงความเป็นไปได้ จากงานวิจัยพบว่ามี แต่จะเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่การที่คนเราจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ มักมาจากการที่อุจาระของเราหลุดเข้าไป เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ไส้ติ่งเกิดการอักเสบขึ้นนั่นเอง


ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลเพชรเวช

ที่มาภาพ : freepik

ข่าวแนะนำ