5 พฤติกรรมเสี่ยง "โรคงูสวัด" โรคยอดฮิตของคนทำงานหนัก นอนน้อย!
เปิด 5 พฤติกรรมเสี่ยง “โรคงูสวัด” โรคยอดฮิตของคนทำงานหนัก นอนน้อย!
การทำงานหนัก ไม่เคยฆ่าใคร แต่สามารถทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ และเป็นจุดเริ่มต้นของโรคมากมายตามมา ไม่เว้นแต่ “โรคงูสวัด” โรคยอดนิยมของคนที่ทำงานหนัก และพักผ่อนน้อยต้องเผชิญ!
งูสวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella zoster virus: VZV) เชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ก่อโรคอีสุกอีใส อาการของโรคที่แสดงออกชัดเจนเลยก็คือ การมีตุ่มใส บวม แดง ขึ้นตามบริเวณต่างๆของร่างกาย นอกจากนี้อาจมีอาการปวดเมื่อยและเป็นไข้ตามมาด้วย
ซึ่งแม้ว่าจะดูเป็นโรคที่สามารถหายได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจมีความรุนแรงของโรคมากขึ้น หรือหากผื่นของโรคงูสวัดขึ้นตามบริเวณที่สำคัญ เช่น เส้นประสาทที่เกี่ยวกับดวงตา อาจทำให้เสี่ยงต่อการตาบอด หรือในผู้ป่วยบางรายอาจส่งผลต่อเยื่อหุ้มสมอง จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
5 พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิด “โรคงูสวัด”
1. ทำงานหนัก
การทำงานหนัก สัมพันธ์กับการเกิดโรคงูสวัด เพราะเนื่องจากเมื่อทำงานหนัก ร่างกายจะอ่อนแอลง และมีความเครียดสะสม ทำให้เชื้อก่อโรคงูสวัดที่อาจแผงอยี่ในตัวสามารถเพิ่มจำนวน และเกิดการก่อโรคขึ้นได้
2. พักผ่อนน้อย
การพักผ่อนน้อย เป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆโรค ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโรคงูสวัด เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ยิ่งผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน เชื้อไวรัสที่หลบอยู่ในร่างกาย อาจกลับมาก่อโรคอีกครั้ง ซึ่งจะกลายเป็นงูสวัดนั่นเอง
3. ไม่ออกกำลังกาย
การไม่ออกกำลังกาย ทำให้เกิดผลเสียตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน เบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้มีความเสี่ยงต่อการกระตุ้นเชื่อไวรัสที่ก่อโรคงูสวัดให้ออกจากปมก่อนอายุ 60 ปี
4. กินอาหารไม่มีประโยชน์
หากอยากมสุขภาพดี เรื่องการกินถือเป็นสิ่งที่สำคัญ หากเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ใช้ยาที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง
หากคุณเป็นคนที่ใช้ยาจำพวกสเตียรอยด์ หรือยาบรรเทาอาการอักเสบอยู่เป็นประจำ ยาเหล่านี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง จนนำไปสู่การเกิดโรคงูสวัดขึ้นได้
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเพชรเวช
ที่มาภาพ : freepik