TNN online อาหารช่วยชีวิต! หมอธีระวัฒน์ แนะสิ่งที่ควร "กิน" อะไรบ้างที่ควร "งด-ห้าม"

TNN ONLINE

Health

อาหารช่วยชีวิต! หมอธีระวัฒน์ แนะสิ่งที่ควร "กิน" อะไรบ้างที่ควร "งด-ห้าม"

อาหารช่วยชีวิต! หมอธีระวัฒน์ แนะสิ่งที่ควร กิน อะไรบ้างที่ควร งด-ห้าม

หมอธีระวัฒน์ แนะกิน "อาหารช่วยชีวิต" ควรกินอะไร งดหรือห้ามอะไร เพื่อห่างโรคภัย ลั่นรักษาอย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับป้องกัน

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอธีระวัฒน์” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ "อาหารการกิน"


โดยระบุว่า "อาหารช่วยชีวิต หมอดื้อ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ถือเป็นปีทองในการได้หลักฐาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ถึงความสำคัญของชนิดของอาหารที่กิน กลไก กระบวนการในการขจัดพิษ ในการเกิดสารดีมีประโยชน์ที่ช่วยปกป้องร่างกายและสมอง มีผลทั้งป้องกันโรคตั้งแต่ยังไม่เกิด และชะลอโรคไม่ให้ลุกลามต่อไป 

ที่สำคัญคือช่วยได้แม้มะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสันซึ่งปัจจุบันยังไม่มียารักษาหรือชะลอ จะมีก็แต่การรักษาตามอาการ และยามีผลข้างเคียง มิหนำซ้ำยังเร่งให้โรคไปเร็วขึ้น ตายเร็วขึ้นไปอีก


อาหารที่ต้องกินและห้ามกินต่อไปนี้ถือว่าควรเริ่มแต่เด็ก เพราะโรคมีการเพาะบ่มยาวนาน นับสิบปี การที่เกิดมะเร็ง มีอาการของโรคหัวใจ สมอง อัมพฤกษ์ ณ นาทีนี้ เป็นผลพวงของการสะสมความร้ายกาจมานาน รักษาอย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับป้องกัน


- กินผลไม้ ผักรวมกากใย ห้ามคั้นเอาแต่น้ำและเอากากทิ้ง กากเป็นตัวสำคัญในการช่วยชีวิตที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เป็นกลุ่มดี ผลิตของดี ขจัดของเสีย ฉะนั้นท้องผูกเป็นข้อเสีย แต่การดีท็อกซ์ล้างลำไส้แม้อาจช่วยท้องผูก แต่ก็จะไม่เหลือจุลินทรีย์ที่ดีไปด้วย


- ห้ามกินน้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง ขวด กระป๋อง ชาเขียว ขาวซึ่งมีน้ำตาลแฝง แต่ชาที่ต้มชงเองกินได้และเป็นของดี น้ำผลไม้คั้นเหล่านี้ไร้กากใย และมีน้ำตาลซึ่งกระตุ้นสมองส่วนเสพติด ก่อให้เกิดความสุข กินแล้วได้แต่อ้วน และสมองฝ่อเร็ว


- ลด งด ของหวาน มัน เครื่องใน เลือด หนังเป็ด ไก่ หมูทำให้อ้วน มีไขมันและเป็นบ่อเกิดของโรคนานาชนิด คนอ้วนมีอัตราการฝ่อของสมองเร็วอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะคนที่มีพันธุกรรมอัลไซเมอร์ ทั้งนี้พบแล้วว่าเด็กที่มีพันธุกรรมส่งเสริมจะมีสมองผิดปกติจากการศึกษาด้วยคอมพิวเตอร์สมองแบบพิเศษตั้งแต่อายุ 4 เดือนเป็นต้นไป


- ของมัน หวานทำให้การระบายสารพิษอัลไซเมอร์ พาร์กินสันจากเนี้อสมองหยุดชะงัก ทั้งนี้โดยต้องระบายลงน้ำหล่อเลี้ยงสมอง ไปทิ้งผ่านท่อระบายคือเส้นเลือด การกินของหวาน มันยังทำให้เส้นเลือดผิดปกติ ท่อระบายน้ำและสารพิษเสียหาย ในทางตรงกันข้ามการกินผัก ผลไม้และกากไย จะเร่งกระบวนการขับสารพิษออกจากสมองได้ยอดเยี่ยมและเส้นเลือดปลอดโปล่งโล่งสะดวก


- งด ลดแป้ง รวมมันเทศ มันฝรั่ง มันสำปะหลัง ซึ่งถูกย่อยและดูดซึมง่าย รวดเร็ว ก่อให้เกิดการไหลหลั่ง ทะลักของฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือด เกิดภาวะดื้ออินซูลิน แม้ไม่เป็นเบาหวาน แต่เหนี่ยวนำการดื้ออินซูลินในสมองเกิดสมองเสื่อมนานาชนิด


- งดเนื้อแดง เนื้อวัว เพราะแม้จะไม่ได้ทำให้ไขมันขึ้นมากแต่มี แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ถูกปรับเปลี่ยนโดยจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดสารพิษ ทำลายเส้นเลือด เช่นเดียวกับไข่แดง ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่เจียว หรือที่อยู่ในขนมเค้ก คุกกี้ มีเลซิติน (Lecithin) ถูกเปลี่ยนเป็นสารพิษเช่นกัน 


ทั้งนี้พอเริ่มเป็นหนุ่ม สาว ควรลดไข่แดงเหลือ 2 ฟองต่ออาทิตย์ ไข่ขาวทานได้ ทั้งนี้เป็นตัวอธิบายตอกย้ำว่าทำไมคนที่ไขมันในเลือดไม่สูงยังตายได้จากโรคเส้นเลือดตันในหัวใจ ในสมองถ้ายังกินไข่ กินเนื้ออยู่ ฉะนั้นหนัก ปลา ไก่ได้ หมูน้อย เลิกเนื้อ แต่ถ้าสามารถเข้าใกล้มังสวิรัติได้ในกรณีนี้ทานไข่ได้ทุกวัน


- ส่งเสริมการกินพริกหยวก พริกหวาน รวมพริกขี้หนู มีสารในกลุ่มนิโคติน ป้องกันและชะลอโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน


- กินถั่วที่มีเปลือกช่วยชีวิตได้ ตั้งแต่ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เชสนัท วอลล์นัท อัลมอนด์ และอื่นๆ แต่ไม่ใช่อบเนย เกลือเยอะกลับตายเร็วขึ้น


- น้ำมันมะกอก (Extravirgin olive oil) กินกับสลัด (ไม่ใช่เอามาผัดกับข้าว) 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน เอามาใส่ข้าวต้มโรยกระเทียมเจียวก็รสชาติใช้ได้


- งด ลด กะทิ มะพร้าว เข้าข่ายของมัน ยั้งๆไว้ก่อนเรื่องน้ำมันมะพร้าวบีบเย็น ที่โฆษณาช่วยโรคอัลไซเมอร์ เพราะต้องมีการเลือกส่วนประกอบพิเศษ ไม่งั้นจะได้แต่ไขมัน และอ้วน


- กาแฟที่มีคาฟีอิน และช็อกโกแล็ตดำ (dark chocolate) ที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไปช่วยหัวสมองจดเท้า


- งดบุหรี่เด้ดขาดวันนี้ เดี๋ยวนี้ อาหารสุขภาพ ยา ยังไงๆต้านพิษบุหรี่ไม่อยู่ ดื่มไวน์ เครื่องดื่มอัลกอร์ฮอร์สม่ำเสมอ อย่างส่งเสริมสุขภาพ ชาย 2 หญิง 1 แก้วต่อวัน (มากกว่านี้ตัวใครตัวมัน)


- สุดท้ายต้องผอม กลไกผ่านยีนยืดชีวิต ชะลอโรค sirtuin และ TOR


เรียนย้ำ การเอาแต่คิดว่าเป็นแล้วค่อยรักษาคือทางหายนะต่อตนเอง ครอบครัวและผู้อื่น ไม่มีอะไรดีกว่าการป้องกัน"






ที่มา ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha

ภาพจาก TNN Online/AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง