เช็กตัวเองด่วน! หากป่วยแล้วมีอาการแบบนี้ เป็น"ไข้เลือดออก"หรือ"ไข้หวัดใหญ่"
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เปิดข้อมูล ไข้เลือดออก-ไข้หวัดใหญ่ 2 โรคนี้มีอาการที่คล้ายๆ กัน พร้อมแนะวิธีการป้องกันโรค
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ระบุข้อมูลว่า ในช่วงฤดูฝน หลาย ๆ คนมักมีอาการคัดจมูก ไอ มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ซึ่งเป็นอาการของหลาย ๆ โรค แต่ที่พบบ่อยก็คือ โรคไข้เลือดออก และโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้มีอาการที่คล้าย ๆ กัน ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสามารถแยกโรคออกจากกัน ดังนั้น การรู้ถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละโรคจะสามารถช่วยให้การรักษารวดเร็วยิ่งขึ้น
โรคไข้เลือดออกมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) ส่วนไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ Influenza Virus เชื้อนี้จะสามารถติดต่อผ่านทางการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย การไอ จาม ของผู้ที่เป็นได้ โดยอาการ
ของทั้ง 2 โรค มีอาการที่คล้ายกัน สำหรับการดูแลอาการเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วยควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อป้องกันภาวะ
ขาดน้ำ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น หรือรับประทานยาลดไข้ เช่น ยาพาราเซตามอลแต่ต้องรับประทานในปริมาณที่แพทย์สั่งเท่านั้น โดยห้ามรับประทานยาแอสไพรินและยากลุ่ม NSAIDs เด็ดขาด เช่น ยาไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย
อาการโรคไข้เลือดออก
1.ไข้ - ไข้สูงลอย > 38.5°C 2-7 วัน
2.เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก - ไม่มีอาการ
3.คลื่นไส้ อาเจียน - มักพบอาการ
4.พบจุดจ้ำเลือดที่ผิวหนัง - มักพบอาการ
5.ถ่ายเป็นสีดำ - มักพบอาการ
6. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ - มักพบอาการ
อาการโรคไข้หวัดใหญ่
1.ไข้ - ไข้สูง
2.เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก - มักพบอาการ
3.คลื่นไส้ อาเจียน - ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย
4.พบจุดจ้ำเลือดที่ผิวหนัง - ไม่มีอาการ
5.ถ่ายเป็นสีดำ - ไม่มีอาการ
6. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ - มักพบอาการ
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
1. ระวังไม่ให้ถูกยุงกัด
2. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
1. ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
2. ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร
3. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดจากผู้ที่เป็นหวัด
โดยการรักษาโรคไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่ จะรักษาตามอาการ แนะนำให้ไปพบแพทย์
ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ภาพจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) / AFP