'โรนัลโด้' สวนเดือด 'บก.ฟรองซ์ ฟุตบอล' ถึงเป้าหมายคว้ารางวัลเหนือ 'เมสซี่'
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกมาตอบโต้กรณีที่ ปาสกาล แฟร์เร บรรณาธิการนิตยสาร ฟรองซ์ ฟุตบอล เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ พูดถึงเป้าหมายในการค้าแข้งของเขาคือ การได้รางวัลแซงหน้า ลิโอเนล เมสซี่
โรนัลโด้ และ เมสซี่ คือสองสุดยอดนักเตะแห่งยุคที่มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกันเสมอและถือเป็นขาประจำของรางวัลบัลลงดอร์ ทางด้านของ โรนัลโด้ ได้รางวัลไปแล้ว 5 สมัย ส่วน เมสซี่ ได้ไป 7 สมัย
ก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดประเด็นที่ แฟร์เร กล่าวกับ The New York Times ถึงเป้าหมายของ โรนัลโด้ ว่ามีเพียงการเอาชนะคู่แข่งในการคว้ารางวัลนี้เท่านั้นว่า "โรนัลโด้ มีความทะเยอทะยานเพียงอย่างเดียวคือการรีไทร์ไปพร้อมกับได้บัลลงดอร์มากกว่า เมสซี่ ผมรู้ดีเพราะเขาเป็นคนบอกผมเอง"
ล่าสุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียของเจ้าตัว โดยรายละเอียดมีดังนี้
"ปาสกาล เฟร์เร พูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผมบอกกับเขาว่า ความทะเยอทะยานเดียวของผมคือการแขวนสตั๊ดโดยคว้าฟุตบอลทองคำให้ได้มากกว่าเมสซี่" โรนัลโด้เขียนทางอินสตาแกรม
"ปาสกาล เฟร์เร โกหก เขาใช้ชื่อผมเพื่อโปรโมทตัวเอง และโปรโมทนิตยสารที่เขาทำงานด้วย มันยอมรับไม่ได้ที่คนซึ่งรับผิดชอบรางวัลที่มีค่าขนาดนี้โกหกแบบนี้ มันไม่เคารพคนที่ให้ความเคารพต่อฟรองซ์ ฟุตบอล และบัลลงดอร์มาตลอด แล้วเขาก็ยังโกหกเรื่องที่ผมไม่ได้ไปงานกาลาว่าเป็นเพราะต้องกักตัวด้วย มันไม่มีเหตุผลแบบนั้นเลย"
"ผมแสดงความยินดีต่อผู้ชนะ ด้วยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาและขาวสะอาดเสมอ มันเป็นสิ่งที่นำทางชีวิตค้าแข้งของผมมาตั้งแต่เริ่ม และผมทำแบบนั้นเพราะผมไม่ได้จะไปสู้กับใคร ผมคว้ารางวัลเพื่อตัวผมเอง เพื่อสโมสรที่ผมอยู่ ผมคว้ามันมาเพื่อตัวเอง และคนที่รักผม ผมไม่ได้คว้ารางวัลสู้กับใคร"
"ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการคว้าแชมป์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติกับสโมสรที่ผมอยู่ และกับทีมชาติของผม ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการเป้นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนที่เป็นหรืออยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ความทะเยอะทะยานสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของผมคือการจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ฟุตบอล"
"ผมจะปิดท้ายด้วยการบอกว่า สมาธิของผมตอนนี้อยู่กับเกมนัดหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โฟกัสทุกๆ อย่างอยู่กับเพื่อนร่วมทีมของผมและแฟนบอลของเรา เรายังประสบความสำเร็จได้ในฤดูกาลนี้ ส่วนที่เหลือน่ะเหรอ? ที่เหลือมันก็แค่ที่เหลือ"