อ่านใจบอร์ดบริหาร 'แมนยู' ทำไม 'ร็อดเจอร์ส' ถึงเป็นตัวเลือกแรก

กระแสการปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ของ ปีศาจแดง กลับมาอีกครั้ง ในช่วงพักเบรกตามปฏิทินทีมชาติหรือโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ หลังจากที่ตัวเต็งก่อนหน้านี้อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ หันหัวเลี้่ยวไปกรุงลอนดอน เพื่อคุมทัพ สเปอร์ส ความอ้างว้างจึงยังคงอยู่ในหัวใจของสาวก ปีศาจแดง ต่อไป 

ล่าสุด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือตาหวานชาวไอร์แลนด์เหนือของ เลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นตังเต็งอันดับ 1 ที่เข้ามาทำงานต่อจาก โอเล กุนนาร์ โซลชา หากมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้จัดการทีมของทัพ ปีศาจแดง ในอนาคต แน่นอนว่าหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง กระแสตีกลับจากเหล่ากูรูรวมไปถึงบรรดาแฟนบอลย่อมแตกเป็น 2 ฝ่ายคือ ไม่เห็นด้วย เพราะอย่าลืมว่ากุนซืออย่าง บี-ร็อด เคยผ่านการคุมทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล มาแล้ว

ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยหากมองข้ามเรื่องของ ลิเวอร์พูล และเอาเรื่องฟุตบอลมาคุยกัน อะไรที่ทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของพลพรรค ปีศาจแดง ณ เวลานี้ ขอสรุปความเป็นไปได้ดังต่อไปนี้  

ที่มาภาพ : AFP

1. พิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกและเวทียุโรป

ร็อดเจอร์ส พิสูจน์มันสมองและบรรลุการเป็นกุนซือระดับชั้นนำของอังกฤษ โดยนายใหญ่วัย 48 ปีเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยของ โชเซ่ มูรินโญ ก่อนจะก้าวเป็นกุนซือให้กับ วัตฟอร์ด, เรดดิ้ง และเริ่มสร้างชื่อกับ สวอนซี จนกระทั่งได้รับงานใหญ่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2012 และก็ทำผลงานได้ไม่เลว ได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2013-14

ก่อนจะถูกปลดและ ย้ายไปคุม เซลติก และกลับมาที่แดนผู้ดีอีกครั้งด้วยการนั่งใหญ่แม่ทัพ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กลายเป็นของแสลงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว นับตั้งแต่เข้ามาคุม จิ้งจอกสยาม และยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จในปี 2020/21 แถมประสบการณ์ในเวทียุโรปของกุนซือรายนี้ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก กับ ลิเวอร์พูล และ ยูโรปา ลีก กับ เลสเตอร์ มันก็น่าจะตอบโจทย์แนวทางบอร์ดบริหารของ ปีศาจแดง ได้เหมือนกัน 

ที่มาภาพ : AFP

2. สร้างบารมี ครองใจแข้งรุ่นใหญ่

บารมีของ บี-ร็อด และความเป็นที่รู้จักของนักเตะชั้นนำอาจเป็นเครื่องหมายคำถามเมื่อครั้งที่เจ้าตัวคุม ลิเวอร์พูล แต่ถึงตอนนี้ ร็อดเจอร์ส กลายสภาพตัวด้วยสภาพแวดล้อมที่มี เป็นกุนซือหัวแถวของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้ว แม้ว่าผลงานของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะออกทะเลในช่วงหลัง แต่สำเร็จเรื่องการครองใจนักเตะแล้ว ร็อดเจอร์ส ปกครองนักเตะระดับชั้นนำมาแล้วมากมายตามวิชาที่ซึมซับมาจาก โชเซ่ มูรินโญ่ 

ร็อดเจอร์ส มีทั้งพระเดชพระคุณ หากบทจะต้องปราบก็ต้องปราบ ดั่งเช่นที่เคยลงดาบ หลุยส์ ซัวเรซ มาแล้วตอนคุมทัพ หงส์แดง นอกจากนี้ในยุคของ ร็อดเจอร์ส ยังมีการรำเข้าผู้เล่นชั้นนำเข้าทีมมาแล้วไม่ว่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ,โรแบร์โต้ เฟร์มิโน่ ,ฟิลิปินส์ คูตินโญ่ และ ดิว็อค ออริกี้  รวมไปถึงดัน โจ โกเมซ ขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่

ที่มาภาพ : AFP

3. แนวทางฟุตบอลตรงสเป็ค

นอกจากบารมีของ ร็อดเจอร์ส ที่ได้ใจผู้เล่นชั้นนำแล้ว ปรัชญาการคุมทีมรวมไปถึงแท็คติกของกุนซือรายนี้ได้รับการยอมในระดับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แนวทางการเล่นฟุตบอลเกมรุกที่ชัดเจน เอ็นเตอร์เทนผู้ชม ใช้สปีดเกมอันเข้มข้นเร้าใจ เข้าใส่แบบถึงลูกถึงคน แถมยังมีความยืดหยุ่นในระบบการเล่นทั้งแบบกองหลัง 3 ตัว และรูปแผงแบ็คโฟร์ ก็ทำให้เห็นมาแล้ว มีทั้งดีและไม่ดีผสมกันไป แต่สำหรับแนวทางแบบนี้มันก็น่าจะเป็นคนที่ใช่ของบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มากก็น้อย

ที่มาภาพ : AFP

4. เคาน์เตอร์เพรสซิ่งตบโจทย์

สิ่งที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังไม่มีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และก็ไม่น่าจะมีแล้ว ก็คือการเล่นในรูปเคาน์เตอร์เพรสซิ่ง แย่งบนคู่แข่งจากแดนบน แบบที่ ปีศาจแดง แพ้ทางให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เก้น คล็อปป์ รวมถึงตัวของ ร็อดเจอร์ส อยู่ในทุกวันนี้ มันคือปัญหา โซลชา รับสภาพแล้วว่าแก้ไม่ตก จากสถานการณ์ที่เจอทีมที่ใช้ เคาน์เตอร์เพรสซิ่้ง หรือ เกเก้นเพรสซิ่ง ของทีมกุนซือที่มีเลเวลสูงกว่า 

ที่มาภาพ : AFP

5. ตบหน้า ลิเวอร์พูล 

มันอาจสะใจเหล่าสาวก เร้ด เดวิลส์ เล็กๆที่พวกเขาได้อดีตกุนซือของคู่ปรับมาคุมทีม แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่แปลกนักในโลกลูกหนัง ณ ปัจจุบัน เพราะตอนนี้กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน ยังเป็นชื่อของ ราฟาเอล เบนิเตซ มันก็เป็นไปได้ที่ ร็อดเจอร์ส จะเข้ามานั่งแท่นนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟฟอร์ด และถ้าลองจินตนาการดูเล่นๆว่าเกมแดงเดือดในอนาคตที่หากสมมติว่า ร็อดเจอร์ส คุมทัพ ปีศาจแดง ปราบทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ได้จริงๆ แน่นอนว่ามันย้อมสะใจแฟน ผีแดง แบบทวีคูณ