5 ประเด็นหลังเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์
จบลงเป็นที่เรียบร้อยกับการแข่งขันพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 0-2 โดยเกมนี้มีประเด็นมากมายที่ทำให้เรามาได้มาพูดถึงกัน
สำหรับเกมนี้ ก็เป็นอีกเกมที่แฟนๆ ปีศาจแดงต้องพบกับความผิดหวัง และเป็นเกมสุดท้ายที่จะทำการตัดเกรดของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สำหรับโอกาสในการคุมทีมปีศาจแดงของเขากันต่อไป รวมไปถึงนักเตะแมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกมนี้ต้องยกให้กับ เจา คันเซโล่ แบ็คซ้ายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำแอสซิสต์ไป 2 ครั้งในเกมนี้
ที่มาภาพ : AFP
1. กัปตันทีมแฮร์รี่ แม็คไกวร์
เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังอีกแล้วกับความเป็นผู้นำของทีม ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก 80 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,588 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีสื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ รายงานว่า ฟอร์มการเล่นของแม็คไกวร์ที่ดูผิดหูผิดตาไปเนื่องจากว่าเขาได้รับความกดดันจากการเป็นกัปตันทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมไปถึงมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ทำให้ร่างกายของเขาไม่ฟิต แต่จากเกมนี้ที่ได้เห็นบอกได้เลยว่า แม็คไกวร์ ไม่มีภาวะการเป็นผู้นำเลย ทั้งในเรื่องของการให้กำลังใจ และในเรื่องของการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง วันนี้การเสียประตูที่สองของทีม ความผิดต้องบอกเลยว่า เป็นเพราะเขาเต็มๆ กองหลังที่สามารถเข้าถึงบอลได้ก่อนคู่ต่อสู้ ไม่ควรจะปล่อยให้บอลตกลงพื้นจนทำให้คู่ต่อสู้ฉกฉวยโอกาสทำประตูแบบนี้ หวังว่าหลังจากพักเบรคจากทีมชาติเขาน่าจะกลับมาอยู่ในร่องในรอยได้
ที่มาภาพ : AFP
2. ฟอร์มของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ในเกมบิ๊กแมตช์
เกมนี้บรูโน่ ไม่สร้างสามารถแผลงฤทธิ์ออกมาได้อย่างเห็นได้ชัด และไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้มากเท่าที่ควร ถ้าเกมไหนที่เขาผลงานไม่ดี จะทำให้เจ้าตัวอารมณ์ไม่ดีมักจะโวยเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดและจะทำให้เขาอารมณ์เสียไปด้วย โดยเฉพาะหลังจากผ่าน นาทีที่ 70 เป็นต้นไป บรูโน่ เหมือนจะมีอาการบาดเจ็บแต่เหมือนยังฟื้นลงเล่นต่อไปจนทำให้เขาไม่สามารถครอบครองบอลได้ และมักจะทำบอลเสียอีกด้วย
ที่มาภาพ : AFP
3. เจา คันเซโล่ คือแมนออฟเดอะแมตช์
ต้องชื่นชมเลยสำหรับฟอร์มการเล่นของ เจา คันเซโล่ แบ็คทีมชาติโปรตุเกส ที่เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จับเขามือยืนที่แบ็คซ้าย และเขาก็ไม่ทำให้ความไว้ใจของนายใหญ่ชาวสเปนผิดหวัง จัดการกดไป 2 แอสซิสต์ สำหรับ 2 ประตูในค่ำคืนนี้ และยังสามารถเก็บคลีนชีทได้อีกด้วย เรียกได้ว่า จัดการทางด้าน เมสัน กรีนวู้ด และ เจดอน ซานโช่ ตัวสำรองที่เพิ่งจะได้ลงสนามในช่วงครึ่งหลัง อยู่หมัด ทำให้แนวรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แผลงฤทธิ์กันไม่ออกเลยทีเดียว
ที่มาภาพ : AFP
4. กลางคู่ แม็คโทร์มิเนย์ - เฟร็ด
และก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้เห็นคู่กองกลางคู่นี้ลงสนามเล่นด้วยกันอีกแล้ว โดยโซลชา ก็ยังไม่กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ การใช้ผู้เล่นเดิมๆ ที่ฟอร์มการเล่นไม่ได้ดี ผลลัพธ์มันก็มักจะออกมาแบบเดิมๆ แบบนี้นี่เอง แดนกลางไม่สามารถเก็บบอลกลับมาครองได้ ถูกทางด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายครองบอลขึงเกมได้มากกว่า โดยมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 68% ในเกมนี้ และการจ่ายบอลกันสูงถึง 821 ครั้ง ในขนาดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายบอลกันเพียง 389 ครั้ง ซึ่งแตกต่างกันเยอะมากสำหรับเกมบิ๊กแมตช์เกมนี้ มิหนำซ้ำ เฟร็ด ยังโชว์การจ่ายบอลเสียอยู่บ่อยครั้ง และจังหวะการเบียดแย่งบอลที่สู้คู่ต่อสู้ไม่ได้ วันนี้ถือเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์แฟนบอลไม่น้อยเมื่อนาทีที่ 80 โซลชาส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงสนามมาแทน เฟร็ด ทำเอาแฟนบอลในโอล์ด แทรฟฟอร์ด ลุกขึ้นปรบมือกันกึกก้อง
ที่มาภาพ : AFP
5. ตัดเกรด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
สำหรับโอกาส 3 นัดของ โอเล่ ชนะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เสมออตาลันต้า 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก คาบ้าน หากรวมคะแนนแค่เพียง 3 นัด โซลชามี 4 แต้ม ยิงได้ 5 เสีย 4 ประตู แบบนี้ถ้ามองด้วยตาเปล่าคะแนนไม่ถึงครึ่งก็น่าจะต้องถือว่า สอบเกือบผ่าน หรือสอบตกนั่นเอง แล้วถ้าเราจะมองไปดูรูปแบบการเล่น โซลชา เปลี่ยนแปลงแผนการเล่นมาเป็น 3-5-2 จากเดิมที่เคยใช้แผนเก่งของเจ้าตัวคือ 4-3-2-1 แต่ถึงจะเปลี่ยนแผนการเล่นยังไง แต่รูปแบบการเล่น และแท็คติกการเล่นมันก็ยังเหมือนเดิม นักเตะไม่เคลื่อนที่ ไม่หาพื้นที่ แถมยังรลงรับต่ำแต่ก็เสียประตูง่ายเหมือนเดิม ดังนั้น ช่วงพักเบรกทีมชาติ หากบอร์ดบริหารจะทำอะไรก็ยังพอมีเวลา ถ้าคิดจะเปลี่ยนโค้ชจริงๆ ช่วงนี้เหมาะมากสำหรับการปลดโซลชา แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แฟนๆ ปีศาจแดงก็ต้องนั่งดูเกมแบบเดิมๆ แบบนี้กันต่อไป
