พรีเมียร์ลีก คอนเฟิร์ม กลุ่มทุนซาอุฯ เทคโอเวอร์นิวคาสเซิล

ก่อนหน้านี้ กลุ่มทุนจากซาอุฯ พยายามยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์สาลิกาดงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020 ทว่าการเจรจากลับล้มเหลว เนื่องจากพวกเขาถูกต่อต้านในหลายเรื่อง อาทิ การละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่ง PIF ถูกแฉว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ beoutQ สถานีโทรทัศน์ซาอุดิอาระเบีย ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬามากมาย หนึ่งในนั้นคือพรีเมียร์ลีก

ขณะที่ องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ก็ออกมาเตือนพรีเมียร์ลีกว่าอาจทำให้เสียภาพลักษณ์ หากปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก BBC ได้รายงานข่าวว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ผู้บริหารของ PIF มีส่วนรู้เห็นกับการสังหารนายจามาล คาชูจกิ นักข่าวและนักวิจารณ์รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย 

ล่าสุด พรีเมียร์ลีกรับรองการเทคโอเวอร์ของ Public Investment Fund แล้ว เท่ากับว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะกลายเป็นสโมสรที่มีเจ้าของทีมรวยที่สุดในโลกทันที หลังมีการประเมินว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีทรัพย์สินในครอบครอง 320,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 14 ล้านล้านบาท

"พรีเมียร์ลีก, สโมสรนิวคาสเซิล และ เซนต์ เจมส์ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ได้ยุติข้อขัดแย้งในเรื่องของการเทคโอเวอร์สโมสรโดยกลุ่มทุน PIF, PCP Capital Partners และ RB Sports & Media" แถลงการณ์ระบุ

"ภายหลังจากการตรวจสอบความเหมาะสมในการเป็นเจ้าของและผู้อำนวยการจากทางพรีเมียร์ลีก สโมสรถูกขายให้กลุ่มทุนโดยมีผลทันที"

"ข้อขัดแย้งทางด้านกฏหมายนั้นเกิดขึ้นเพราะความกังวลในผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร และ/หรือ มีอำนาจในการควบคุมสโมสรหลังจากการเทคโอเวอร์"

"ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าจำเป็นต้องมีข้อตกลง เพื่อยุติความไม่มั่นใจจากแฟนบอลในเรื่องเจ้าของสโมสร พรีเมียร์ลีกได้รับสัญญาผูกมัดตามกฏหมายที่ระบุว่าราชอาณาจักรซาอุดิ อาระเบียจะไม่เข้ามาควบคุม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด"

โดย Public Investment Fund จะถือหุ้นทั้งหมด 80%, PCP Capital Partners ถือ 10% และ RB Sports & Media ถืออีก 10% ขณะเดียวกัน นี่ยังเป็นการปิดฉากการบริหารของ ไมค์ แอชลีย์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่เข้ามาซื้อกิจการของทีมตั้งแต่ปี 2007 อีกด้วย