ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2021-22 สัปดาห์ที่ 4 ลีดส์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 4 "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดสนามเอลแลนด์ โร้ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 22.30 น. ประจำวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564

เริ่มเกมการแข่งขันมาทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กัน แต่ยังไม่มีทีมใดที่สามารถหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 

นาทีที่ 15 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จ่ายบอลมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วเป็น ดิโอโก้ โชต้า ที่ได้จังหวะตวัดยิงบอลตรงกรอบแต่ยังเป็น อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ที่ปัดบอลออกมาได้ 

ต่อมาในนาทีที่ 20 โฌเอล มาติป พาบอลขึ้นมาก่อนต่อบอลทำชิ่งกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะเป็น โฌเอล มาติป ที่จ่ายบอลออกไปด้านขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนจ่ายกลับมาหน้าปากประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0

นาทีที่ 26 ดิโอโก้ โชต้า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเลี้ยงบอลตัดเข้ากลางมาในกรอบเขตโทษ แล้วจ่ายข้ามาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้โอกาสยิงแต่บอลเหินข้ามคานไป 

ต่อมาในนาทีที่ 38 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มีโอกาสได้ยิงไกลแถวหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งหลุดเสาออกหลังไปแบบได้ลุ้น 

ช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0

เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลก่อนมีจังหวะพยายามจะยิงแต่โดน คัลวิล ฟิลลิปส์ สะกัดล้มแต่บอลยังมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้จังยิงแต่ยังไปติดบล็อคของ สจ๊วร์ต ดัลลัส ออกหลังไป 

ก่อนที่ในจังหวะเตะมุมนาทีที่ 50 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้ามาให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โหม่งบอลมาโดน  พาทริก แบมฟอร์ด ก่อนมาเข้าทาง ฟาบินโญ่ ที่ได้ยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 

นาทีที่ 61 ปาสกาล สเตร้าช์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากเข้าปะทะกับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์  จนทำให้แข้ง "หงส์แดง" ขาหัก ผู้ตัดสินได้ปรึกษากับทีมงานวีเออาร์ ก่อนไล่แข้งเจ้าถิ่นออกจากสนาม 

นาทีที่ 80 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาบอลลงทางฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายมาให้ ดิโอโก้ โชต้า แล้วหาจังหวะแทงบอลต่อมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้จังหวะพาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนได้จังหวะยิงแต่ไปติดเซฟ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ปัดบอลออกหลังไปได้ 

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 90+2 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวข้ามฝั่งไปให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เอาบอลลงก่อนจ่ายทะลุช่องไปให้ ซาดิโอ มาเน่ จับบอลก่อนพลิกแล้วได้โอกาสยิงส่งบอลเข้าประตูไป ให้  ลิเวอร์พูล บุกนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 ส่งผลให้ "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 10 แต้ม ขยับรั้งอันดับ 3 ของตาราง ขณะที่ "ยูงทอง" มี 2 คะแนน รั้งอันดับ 17 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ลีดส์ ยูไนเต็ด ระบบ (4-1-4-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ; ลุค อายลิ่ง,ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ปาสกาล สเตร้าช์ น.33), ลี คูเปอร์,จูเนียร์ ฟีร์โป้ ; คัลวิล ฟิลลิปส์ ; ราฟินญ่า, สจ๊วร์ต ดัลลัส ,โรดริโก้ โมเรโน่ (ไทเลอร์ โรเบิร์ต น.46) , แจ็ค แฮร์ริสัน (แดเนี่ยล เจมส์ น.68) ; พาทริก แบมฟอร์ด

ลิเวอร์พูล ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน  ; ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.64) , ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า (นาบี เกอิต้า น.90+3); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.82), ซาดิโอ มาเน่