เปลี่ยนหลายข้อ!เปิดกฎใหม่พรีเมียร์ลีกใช้ในฤดูกาล 2021-22

โดยทางพรีเมียร์ลีกออกมาเปิดเผยแล้วว่าได้มีการปรับเปลี่ยนกฎหลายอย่างซึ่งมีผลในซีซั่น2021-22 ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

- จุดล้ำหน้าของร่างกาย

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้กำหนดชั้นเจนแล้วว่า "ใต้รักแร้" เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้พรีเมียร์ลีกตัดสินใจวัดว่าล้ำหน้าหรือไม่จาก "ใต้รักแร้" เป็นต้นไป

- นิยามการแฮนด์บอล

ที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่โดนจับเป็นแฮนด์บอลทั้งที่บอลไปโดนมือโดยบังเอิญแต่จากนี้จะไม่ถูกตัดสินเป็นจังหวะแฮนด์บอลอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าเป็นการทำแฮนด์บอลที่มีส่วนกับการสร้างโอกาสทำประตูโดยตรง หรือกลายเป็นการทำให้บอลเข้าตาข่ายไปเลยจะถูกจับฟาวล์ เช่น หากบอลโดนมือกองหลังตั้งแต่ตอนที่บอลอยู่ในแดนตัวเอง ก่อนที่จะมีการต่อบอลกันขึ้นไปหลายจังหวะจนมีประตูเกิดขึ้นจะไม่โดนจับว่าเป็นแฮนด์บอล ในทางกลับกัน หากบอลไปโดนมือผู้เล่นจนบอลลอยไปเข้าทางเพื่อนร่วมทีมแล้วทำประตูได้ในทันที จะถือเป็นจังหวะฟาวล์

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนคำนิยามการทำให้ "ร่างกายใหญ่ขึ้นแบบไม่เป็นธรรมชาติ" โดยต่อไปนี้จะไม่มีการขยับท่าทางไหนที่จะถูกระบุให้เป็น "การขยับแบบไม่เป็นธรรมชาติ" อีกต่อไป ซึ่งกรรมการสามารถตัดสินโดยยึดจากการเคลื่อนไหวของนักเตะและโมเมนตัมของร่างกายเป็นหลักได้โดยตรง

- โดนตัวเบาๆ ไม่เป็นการฟาวล์

เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเกมพรีเมียร์ลีก มีจุดโทษเกิดขึ้นถึง 125 ลูก ซึ่งถือสถิติใหม่ของลีก โดยส่วนหนึ่งเกิดจากกรรมการเป่าฟาวล์ทั้งที่แนวรับไปโดนตัวแนวรุกแบบเบาๆ เท่านั้น ทำให้พรีเมียร์ลีกปรับเปลี่ยนใหม่ว่าหากมรการโดนตัวเบาๆ ในกรอบเขตโทษซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วไม่รุนแรงพอที่จะทำให้แนวรุกต้องล้มลง จะไม่ถูกตัดสินให้เป็นการฟาวล์อีกต่อไป

- เส้นวัดล้ำหน้าVARหนาขึ้น

จากเดิมเส้นจำลองที่ตีขึ้นมามีความกว้างเพียง 1 มิลลิเมตร ล่าสุดขยายเป็น 5 เซนมิเตรซึ่งเริ่มใช้ไปแล้วในศึก ยูโร 2020 

- แฟนบอลไม่ได้เห็นVARผ่านหน้าจอทีวี

ที่ผ่านมามีการนำเอาภาพVARปตัดต่อจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้ทางทีมกรรมการโดนตำหนิทั้งที่บางครั้งตัดสินได้ถูกต้องแล้วจึงส่งผลให้ซีซั่นนี้แฟนบอลที่ดูผ่านหน้าจอจะไม่ได้เห็นการตีเส้นจำลองว่าล้ำหน้าหรือไม่

- ยกธงล้ำหน้าเร็วขึ้น

ที่ผ่านมาไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้าเมื่อมีการหยุดจังหวะการเล่นไปแล้ว ซึ่งทำให้นักเตะบางคนวิ่งฟรี ซึ่งพรีเมียร์ลีกปรับใหม่ให้ยกธงตั้งแต่แรกๆ ถ้าไม่ใช่จังหวะที่ได้ลุ้นประตูในทันที

- เป่าฟาวล์หนุนหลังคู่แข่ง

ผ่านมามีนักเตะใช้เทคนิคหันหลังเข้าหาคู่แข่งในจังหวะที่อีกฝ่ายกระโดดเล่นลูกกลางอากาศเพื่อเรียกฟาวล์ ล่าสุดพรีเมียร์ลีกมองว่าเป็นการเล่นที่อันตราย และคนที่ทำแบบนั้นกลายเป็นคนทำฟาวล์

- เปลี่ยนตัวแบบพิเศษ

พรีเมียร์ลีก ยังคงให้มีการใส่ชื่อนักเตะตัวสำรองได้สูงสุด 9 คนเหมือนเดิม ต่างจากระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลงไปที่มีตัวสำรองได้ 7 คนเท่านั้น และแต่ละทีมสามารถเปลี่ยนตัวตามปกติได้สูงสุด 3 รายเท่าเดิม

อย่างไรก็ตามมีการเพิ่มกฎให้โควตา "เปลี่ยนตัวคนที่มีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง" เพิ่มจากการเปลี่ยนตัวตามปกติ ซึ่งโควตานี้แต่ละทีมสามารถทำได้ 2 คนต่อ 1 เกม