TNN online เป๊ปแพ้ทางเชลซี! เปิดสถิติ-เกร็ดน่าสนใจหลังเกมชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เป๊ปแพ้ทางเชลซี! เปิดสถิติ-เกร็ดน่าสนใจหลังเกมชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก

เป๊ปแพ้ทางเชลซี! เปิดสถิติ-เกร็ดน่าสนใจหลังเกมชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสแปนิชยังคงร้องเพลงรอแชมป์ยุโรปกับแมนฯ ซิตี้ต่อไปหลังโดนทีเด็ด โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเยอรมันพาเชลซีเชือดหวิว 1-0 เถลิงแชมป์สมัยที่ 2 ของ "สิงห์บลูส์"

เกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เอสตาดิโอ โด ดราเกา เมืองปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไค ฮาแวร์ทซ์เป็นฮีโร่ให้เชลซีซัดประตูชัยในนาที 42 ส่งให้ "เรือใบสีฟ้า" ได้แต่เฝ้ารอสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรในการครองแชมป์รายการนี้ต่อไป


โดยหลังจบเกมนี้มีสถิติและเกร็ดข้อมูลน่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย มีอะไรบ้างไปดูกัน


- เชลซี เป็นทีมอังกฤษทีมที่ 3 ที่คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ 2 สมัยต่อจาก ลิเวอร์พูล (2004-05 และ 2018-19) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1998-99 และ 2007-08)


- เชลซี คว้าถ้วยรางวัล 6 จาก 7 ครั้งในการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปและเป็นความสำเร็จในฟุตบอลยุโรปครั้งที่ 4 ในยุค โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเป็นเจ้าของทีม (แชมป์ ชปล. ฤดูกาล 2020-21 และ 2011-12, แชมป์ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2012-13 และ 2018-19)


- โธมัส ทูเคิ่ล เป็นกุนซือเยอรมันคนที่ 3 ที่คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใน 3 ฤดูกาลหลังสุด (เจอร์เก้น คล็อปป์ 2019, ฮันซี่ ฟลิค 2020) และเป็นครั้งแรกที่ผู้ชนะ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คือกุนซือชาติเดียวกัน 3 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ฤดูกาล 1979-80 ถึง 1981-82 (ไบรอัน คลัฟ, บ็อบ เพสลี่ย์ และ โทนี่ บาร์ตัน)


- โธมัส ทูเคิ่ล เป็นกุนซือทีมคนที่ 2 ที่เอาชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ 3 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการในฤดูกาลเดียว โดยคนแรกที่ทำได้คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับลิเวอร์พูล ในปี 2018


- เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แพ้ในเกมรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในฐานะกุนซือแมนฯ ซิตี้ และเป็นครั้งที่สองที่ปราชัยนัดชิงชนะเลิศในอาชีพกุนซือของเขา (เคยแพ้ใน โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2020-11)


 - เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แพ้ เชลซี รวมทุกรายการ 8 ครั้ง มากกว่าที่แพ้ให้กับทีมอื่น และเป็นการปราชัย "สิงห์บลูส์" ทั้ง 3 ครั้งหลังสุด ซึ่งมีเพียงแค่ 2 สโมสรเท่านั้นที่ เป๊ป แพ้ 3 ครั้งติดต่อกันคือ เรอัล มาดริด (2012-14) และ ลิเวอร์พูล (2018)


- ประตูชัยของเชลซีถือเป็นประตูแรกของ ไค ฮาแวร์ทซ์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยังเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบชิงชนะเลิศนับตั้งแต่ อิลคาย กุนโดกัน ยิงในปี 2013 


-  ไค ฮาแวร์ทซ์ กลายเป็นนักเตะเยอรมันที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (21 ปี 352 วัน) โดยสถิติก่อนหน้านี้เป็น ลาร์ส ริคเคน ยิงได้ในปี 1997 (วัย 20 ปี 322 วัน พบ ยูเวนตุส)


- หลังจาก ไค ฮาแวร์ทซ์ ยิงประตูได้ในนาที 42 ไม่มีนักเตะแมนฯ ซิตี้ หรือ เชลซี คนไหนที่ยิงตรงกรอบได้อีกเลย


- เอดูอาร์ เมนดี้ เก็บคลีนชีท 9 จาก 12 เกมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนเก็บคลีนชีทในรายการนี้มากกว่านี้แล้วในฤดูกาลเดียว (เทียบเท่ากับ ซานติอาโก้ กายิซาเรส กับ บาเลนเซีย ฤดูกาล 2000-01 และ เกย์ลอร์ นาวาส กับ เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2015-16)


- เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซีกลายเป็นนายทวารที่ประเดิมเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นฤดูกาลแรกแล้วเก็บคลีนชีทได้มากที่สุด ( 9 เกม)


- เมสัน เมาน์ท เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ทำแอสซิสต์ได้ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ เวสต์ บราวน์ เคยทำได้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมพบ เชลซี เมื่อปี 2008  


ภาพจาก : @ChelseaFC 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง