ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2020-21 สัปดาห์ที่ 33 ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 33 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ลงทำการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย.64

ครึ่งเวลาแรก

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าบ้านได้ประตูออกนำก่อน จากการที่ ซาดิโอ มาเน่ ครอสบอลเข้าไปในกรอบ แล้วผู้เล่นของทีมเยือนโหม่งสกัดมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้จับก่อนหมุนตัวตวัดยิงส่งบอลตุงตาข่ายพา ลิเวอร์พูล นำ นิวคาสเซิ่ล 1-0

นาทีที่ 20 ทีมเยือนได้ลุ้น จากจังหวะที่ จอนโจ เชลวี่ วางบอลยาวขึ้นหน้าให้ แมตต์ ริตชี่ หลุดเข้าไปแล้วปล่อยบอลลงพื้นก่อนยิงด้วยซ้าย แต่ติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์

ต่อมาในนาทีที่ 23 ลิเวอร์พูล มีโอกาส โดย ติอาโก้ อัลคันทาร่า จ่ายบอลทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคาะต่อไปยัง ดีโอโก้ โชต้า ได้แต่งแล้วยิงด้วยขวาเต็มข้อ แต่โด่งเหินข้ามคานออกหลังไป

ถัดมาไม่ถึงหนึ่งนาที เจ้าบ้านยังเปิดเกมรุกต่อเนื่อง แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่ขยันไล่ไปเล่นบอล ก่อนเปิดเข้าไปตรงกลางถึง ดีโอโก้ โชต้า ง้างเท้าหวด แต่ไปของซอง มาร์ติน ดูบราฟก้า รับเอาไว้ได้

นาทีที่ 29 เจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้ง จากการที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ยิงด้วยขวา แต่ก็ยังติดบล็อก

จากนั้นในนาทีที่ 36 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้น โดย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตักบอลหยอดขึ้นหน้าให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดียวเข้าไป แต่โดน มาร์ติน ดูบราฟก้า ออกมาบล็อกบอลเอาไว้ได้ทันเวลา

นาทีที่ 40 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้จับแล้วกะจะล็อกหลบ มาร์ติน ดูบราฟก้า แต่ไม่ผ่าน โดนบล็อกเอาไว้ได้ก่อน ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูเพิ่ม

ต่อมาในนาทีที่ 44 เจ้าบ้านเซตเกมขึ้นมาใหม่ แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลออกข้างให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนเปิดเข้ามาตรงกลางถึง ซาดิโอ มาเน่ ทิ้งตัวยิง แต่บอลเฉียวเสาออกหลังไปอีก

จากนั้นหมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ นิวคาสเซิ่ล 1-0

ครึ่งเวลาหลัง

กลับมาสู่เกมครึ่งหลัง ในนาทีที่ 48 เจ้าบ้านต่อบอลกันขึ้นมา ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะจ่ายขึ้นหน้า แล้ว ดีโอโก้ โชต้า ปล่อยหลอก บอลเลยไปถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พลิกตัวแล้วซัดด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า

นาทีที่ 55 นิวคาสเซิ่ล ได้ลุ้น จากการที่ ยาค็อบ เมอร์ฟี่ จ่ายบอลให้ โชลินตอน ได้กดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่ติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์ รับเอาไว้ได้

ต่อมานาทีที่ 64 เจ้าถิ่นมีโอกาส โดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฉกบอลเอามาเล่นได้ ก่อนจะลากจี้เข้าใส่ แล้วตัดสินใจยิงเอง บอลเรียดเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว

นาทีที่ 73 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีครั้ง โดย ซาดิโอ มาเน่ เบิ้ลบอลกลับมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ง้างเท้ายิง แต่บอลเข้าข้างตาข่ายด้านนอก

ถัดมาในนาทีที่ 80 เจ้าถิ่นบุกต่อ โดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ซัดด้วยซ้ายอัดเสาแรก แต่ไม่ผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า

นาทีที่ 90+2 ทีมเยือนเกือบมาได้ประตูตามตีเสมอ หลังจากการที่ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ไหลบอลให้ คัลลัม วิลสัน ทะลุเข้าไปยิง จังหวะแรกติดบล็อก อลีสซง เบ็คเกอร์ แต่เคลียร์ไม่ขาด กระดอนมาเข้าทางได้ซัดซ้ำดาบสอง ส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินชี้ว่า เป็นลูกแฮนด์บอล ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ชวดได้ประตู

จากนั้นนาทีที่ 90+6 ทีมเยือนมาปลดล็อกจนได้ โดย ดไวท์ เกย์ล โหม่งชงให้ โจ วิลล็อค ได้กดด้วยขวา ส่งบอลผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าประตู ช่วยให้ นิวคาสเซิ่ล ไล่ตามตีเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ก่อนหมดเวลา

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1  ทำให้ "หงส์แดง" เจ๊าในลีก 2 นัดติดต่อกัน ชวดขึ้นท็อปโฟร์ รั้งอันดับ 6 ของตาราง เก็บได้ 54 คะแนน ด้าน "สาลิกาดง" ไร้พ่าย 4 เกมติด อยู่ที่ 15 มี 36 แต้ม เหนือ ฟูแล่ม ทีมสุดท้ายโซนตกชั้น 9 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล ระบบ (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เคอร์ติส โจนส์ น.77), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (เจมส์ มิลเนอร์ น.58), ซาดิโอ มาเน่ ; โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ระบบ (5-3-2) : มาร์ติน ดูบราฟก้า ; ยาค็อบ เมอร์ฟี่, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, คีแรน คล้าร์ก (โจ วิลล็อค น.64), พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริตชี่ ; ฌอน ลองสตาฟฟ์, จอนโจ เชลวี่, มิเกล อัลมิรอน (ดไวท์ เกย์ล น.85) ; อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง, โชลินตอน (คัลลัม วิลสัน น.60)