แมนซิตี้นำก่อนแต่พ่ายคารัง โดนทีเด็ดวาร์ดี้กดแฮตทริก พาเลสเตอร์บุกถล่ม5-2แซงยึดฝูง
ริยาร์ด มาเรซ ทำประตูให้แมนฯ ซิตี้ ออกนำตั้งแต่ 4 นาทีแรก แต่หลังจากนั้น เจมี่ วาร์ดี้ โชว์ฟอร์มฮอตซัดแฮตทริก พาเลสเตอร์ แซงชนะ ไป อย่างสุดมัน 5-2 เก็บชัยชนะได้สำเร็จ พร้อมทำให้"จิ้งจอกสีน้ำเงิน"ชนะ3เกมติด ยึดจ่าฝูง ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มี 3 แต้ม จาก 2 นัด
เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที จากจังหวะเตะมุมของเจ้าถิ่น เป็นทางฝั่ง เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมเข้ามา เจมส์ จัสติน พยายามโหม่งสกัดบอลไปเข้าทาง ริยาร์ด มาเรซ ได้จังหวะยิงด้วยเท้าขวา ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 17 เควิน เดอ บรอยน์ ปั้มบอลจากหน้าเขตโทษ ก่อนไหล่ต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แล้วทำชิ่งกับ ริยาร์ด มาเรซ แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษ แล้วได้จังหวะตวัดยิงบอลไปเข้ามือของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างพลัดกันสร้างสรรค์เกมรุก แต่ยังไม่มีทีมใดมีจังหวะจบสกอร์เพิ่มเติมแบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 30 นาที สกอร์ยังคงเดิมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
นาทีที่ 36 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จ่ายบอลให้ เจมี่ วาร์ดี้ ในเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะมาโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ สกัดล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น เจมี่ วาร์ดี้ ยิงผ่านมือของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 54 ยูริ ตีเลมันส์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ติโมธี คาสตานเญ่ ได้บอลหลุดขึ้นไปด้านขวา ก่อนเปิดไปหน้าปากประตูแล้วเป็น เจมี่ วาร์ดี้ วิ่งเข้ามาไขว้ขาส่งบอลผ่านตัวของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
หลังจากนั้นอีก 3 นาที ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ เจมี่ วาร์ดี้ ก่อนโดน เอริค การ์เซีย กระแทกล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ทันที ก่อนเป็น เจมี่ วาร์ดี้ รับหน้าที่ยิงผ่านมือของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1
นาทีที่ 64 แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ได้จังหวะเปิดบอลจากด้านซ้าย เข้าไปในเขตโทษ ก่อนเป็น เลียม ดีแลป ได้จังหวะขึ้นโหม่งบอลไปตกบนคานก่อนออกหลังไป
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 77 เจมส์ แมดดิสัน ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ก่อนได้บอลเลี้ยงขึ้นมาทางด้านซ้าย แล้วได้โอกาสลองยิงไกล บอลพุ่งผ่านมือของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1
นาทีที่ 84 เจ้าถิ่นได้เตะมุม ก่อนเป็น ริยาร์ด มาเรซ รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามา แล้วเป็น นาธาน อาเก้ ส่งบอลเข้าประตูไปได้ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตาม เลสเตอร์ ซิตี้ 2-4
หลังจากนั้นอีก 3 นาที เจมส์ แมดดิสัน ได้บอลในเขตโทษ ก่อนโดน แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ เตะล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น ยูริ ตีเลมันส์ รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-2
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-2 เก็บชัยชนะได้สำเร็จ พร้อมทำให้"จิ้งจอกสีน้ำเงิน"ชนะ3เกมติด ยึดจ่าฝูง ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มี 3 แต้ม จาก 2 นัด
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน ; ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริค การ์เซีย, นาธาน อาเก้, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ; แฟร์นันดินโญ่ (เลียม ดีแลป น.51), โรดรี้ ; ฟิล โฟเด้น(เฟร์ราน ตอร์เรส น.64), เควิน เดอ บรอยน์, ริยาร์ด มาเรซ ; ราฮีม สเตอร์ลิง
เลสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; ติโมธี คาสตานเญ่,จอนนี่ อีแวนส์ (คริสเตียน ฟุคส์ น.80), ซากลาร์ โซยุนชู, เจมส์ จัสติน ; น็อมปาลิส เมนดี้ ;ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์, ยูริ ตีเลมันส์, เดนนิส ปราต (เจมส์ แมดดิสัน น.69), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ; เจมี่ วาร์ดี้ (เคลิชี อิเฮียนาโช น.85)