ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 24 เชลซี พบ อาร์เซน่อล

วันนี้ (22 ม.ค. 63) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 24 ที่สนาม "สแตมฟอร์ด บริดจ์" เป็นทางด้าน เชลซี เปิดบ้านทำศึกลอนดอนดาร์บี้ แมตช์ พบกับ อาร์เซนอล ลงสนามเวลา 02.30 น.

เริ่มเกมมาได้ประมาณ 5 นาที ทั้งสองทีมต่างพยายามครอบครองบอลเพื่อหวังทำเกมรุกบุกใส่อีกฝ่าย แต่ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นประตูแบบจะแจ้ง ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0  

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 10 เป็นฝั่งเจ้าบ้านได้เตะมุม วิลเลี่ยน รับหน้าที่เปิดเข้ามา และเป็น อันเดรส คริสเตียนเซ่น ได้จังโหม่งแต่โดนไม่ดีบอลหลุดออกหลังไป 

นาทีที่ 15 จากจังหวะเตะมุมของเชลซี ก่อนที่จะอาศัยจังหวะเล่นสั้น บอลไปอยู่ที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอยหาจังหวะเลี้ยงหลบก่อนตัดสินใจเปิดบอลเข้าไปให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โหม่งช่งไปให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้จังหวะโหม่งอีกที่แต่บอลไปตรงตัว แบรนด์ เลโน่

หลังจากนั้นอีก 2 นาที เจ้าถิ่นยังได้เตะมุมต่อ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เล่นสั้นให้ วิลเลี่ยน ก่อนที่จะไหลกลับมาให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้ปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งไปชนคานออกหลังไป

นาทีที่ 26 ชโคดราน มุสตาฟี่ ส่งบอลคืนหลังไม่ดี โดน แทมมี่ อับราฮัม ตัดบอลได้ ก่อนเลี้ยงหลบ แบรนด์ เลโน่ ไปได้แล้ว แต่มาโดน ดาวิด ลุยซ์ เข้ามาทำฟาวล์จากด้านหลัง ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที พร้อมทั้งแจกใบแดงให้ ดาวิด ลุยซ์ ก่อนเป็น จอร์จินโญ่ รับหน้าที่ยิงไปด้านขวาของตัวเองเบียดเสาเข้าไปช่วยให้ เชลซี ออกนำ อาร์เซน่อล 1-0 

นาทีที่ 32 คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้จังหวะเลี้ยงบอลจากด้านขวา ก่อนทำชิ่งกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แล้วได้จังหวะยิงจากหน้าเขตโทษ แต่ยังเป็น แบรนด์ เลโน่ พุ่งปัดบอลออกไปได้ 

หมดเวลาการแข่งขันครึ่งเวลาแรก เชลซี ออกนำ อาร์เซน่อล 1-0 

เริ่มครึ่งมาถึงนาทีที่ 55 ทีมเยือนขยับแก้เกมเลือกส่ง มัตเตโอ เกนดูซี่ ลงสนามแทนที่ เมซุต โอซิล

นาทีที่ 65 จากจังหวะเตะมุมของเจ้าถิ่น วิลเลี่ยน เปิดเข้ามา ชโคดราน มุสตาฟี่ โหม่งสะกัดออกมาเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้บอลก่อนเลี้ยงขึ้นมาแล้วเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลื่นล้มตรงกลางสนามทำให้เข้าสะกัดไม่ได้ ก่อนที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จะเลี้ยงบอลยาวเข้าไปยิงผ่านมือเกปา อาร์ริซาบาลาก้า ช่วยให้ อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ เชลซี 1-1 

นาทีที่ 66 รอส บาร์คลี่ย์ ถูกส่งลงสนามแทนที่ มาเตโอ โควาซิซ ก่อนที่ นาทีที่ 69 เมสัน เมาน์ต ถูกส่งลงสนามแทนที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 73 อันเดรส คริสเตียนเซ่น วางบอลยาวไปให้ วิลเลี่ยน เอาบอลลงทางด้านก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางบริเวณในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิง แต่ยังไปติดเซฟของ แบรนด์ เลโน่

นาทีที่ 79 มิชี่ บัตชูอายี่ ถูกส่งลงสนามแทนที่ วิลเลี่ยน 

อีก 1 นาทีต่อมา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ไหลบอลให้ จอร์จินโญ่ ก่อนวางบอลยาวเข้าเขตโทษ และเป็น รอส บาร์คลี่ย์ ได้จังหวะโหม่ง แต่ แบรนด์ เลโน่ ยังปัดบอลออกไปได้ 

ก่อนที่ฝั่งทีมเยือนจะเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง ร็อบ โฮลดิ้ง ลงสนามแทนที่  นิโกล่าส์ เปเป้

นาทีที่ 84 จากจังหวะเตะมุมของเจ้าถิ่น เล่นสั้นบอลไปอยู่ที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดบอลเข้ามาและเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยิงเข้าไปให้ เชลซี  ออกนำ อาร์เซน่อล 2-1 

หลังจากนั้นอีก 3 นาที ลูคัส ตอร์ไรร่า ไหลบอลให้ เอคตอร์ เบเยริน ได้จังหวะยิงด้วยเท้าซ้าย บอลโค้งเข้าเสาสองไป ช่วยให้ อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ เชลซี 2-2 

นาทีที่ 90+1 โจ วิลล็อค ถูกส่งลงสนามแทนที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ 

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ "สิงห์บลส์"รั้งที่ 4 ของตาราง มีคะแนนทิ้งห่างแมนฯยูไนเต็ด 6 คะแนน ฝั่ง"ปืนใหญ่"รั้งที่ 10 ของตาราง แต่เสมอมา 3เกมติด

รายชื่อผู้เล่น11คนแรกที่ลงเป็นตัวจริง

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตียนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอเมอร์สัน - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ - คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, แทมมี่ อับราฮัม, วิลเลี่ยน

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่ - เอคตอร์ เบเยริน , ชโคดราน มุสตาฟี่, ดาวิด ลุยซ์, บูคาโย่ ซาก้า - ลูคัส ตอร์ไรร่า, กรานิต ชาก้า - นิโกล่าส์ เปเป้, เมซุต โอซิล, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - อเลซ็องด์ ลากาแซตต์