TNN online 4 เหตุผล 'นิวคาสเซิล' ฟอร์มร้อนแรง ถึงขั้นเบียดลุ้นแชมป์ 'พรีเมียร์ลีก'

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

4 เหตุผล 'นิวคาสเซิล' ฟอร์มร้อนแรง ถึงขั้นเบียดลุ้นแชมป์ 'พรีเมียร์ลีก'

4 เหตุผล 'นิวคาสเซิล' ฟอร์มร้อนแรง ถึงขั้นเบียดลุ้นแชมป์ 'พรีเมียร์ลีก'

"สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และเป็นไปในทิศทางที่ดี ทั้งการเปลี่ยนเจ้าของสโมสร, กุนซือของทีม, นักเตะ รวมไปถึงอันดับในศึกพรีเมียร์ลีก ที่ตอนนี้พวกเขาติดอันดับ Top4 ของตารางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นิวคาสเซิล ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปี เท่านั้น สำหรับการเข้ามาเทคโอเวอร์ของ กลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย Public Investment Fund (PIF) มี เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เป็นประธาน เข้ามาถือหุ้น 80% ของสโมสร มูลค่าการเทคโอเวอร์ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 305 ล้านปอนด์


จากนั้นผลงานในสนามของพวกเขาทะยานขึ้นมาติด Top4 ในศึกพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ โดยตอนนี้พวกเขารั้งอันดับที่ 3 แข่งไป 14 นัด ชนะ 7 เสมอ 6 และแพ้เพียง 1 นัด มีทั้งหมด 27 คะแนน ตามหลังแมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูง เพียง 5 คะแนน และอาร์เซน่อล จ่าฝูงเพียง 7 คะแนน เท่านั้น


วันนี้ทาง TNN Sports จะพามาวิเคราะห์ เหตุผลกันว่าทำไม นิวคาสเซิล ที่เคยอยู่ท้ายตารางและสามารถทะยานขึ้นมาสู่ Top4 ได้สำเร็จ


เหตุผลแรก : กลุ่มทุนซาอุ เข้ามาเทคโอเวอร์

กลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย Public Investment Fund (PIF) คือเจ้าของรายใหม่ของทีม และได้ขึ้นชื่อว่า เป็นทีมที่รวยที่สุดในโลก เนื่องจาก PIF มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นเม็ดเงินที่มหาศาลในการทำทีมฟุตบอลหนึ่งทีมให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน หลังจากการเทคโอเวอร์นั้น ทำให้แฟนบอล เดอะทูน อาร์มี่ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และพร้อมสนับสนุนทีม โดยเฉพาะการเข้ามาเชียร์ในสนาม และหวังว่าทีมจะนำเอาซูเปอร์สตาร์หลายๆ คนเข้ามาสู่ทีมได้อย่างไม่ยากเย็น


เหตุผลที่สอง : นิวคาสเซิล เจอกุนซือที่ใช่

หลังจากสโมสรได้กลุ่มทุนที่มีเงินมหาศาลเข้ามานั้น ทำให้ชื่อของกุนซือระดับโลกหลายคนมีข่าวเชื่อมโยงกับทีมแบบไม่ต้องสงสัย แต่สุดท้ายทางผู้บริหารของทีมเลือกไปที่ เอ็ดดี้ ฮาว อดีตกุนซือบอร์นมัธ เข้ามากอบกู้สถานการณ์ในปี 2021 ที่ตอนนั้น ทีม จมอยู่อันดับ 19 รองสุดท้ายของตาราง และเป็นทีมเดียวที่ยังเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไม่ได้เลย สุดท้ายพาทีมจบอันดับ 11 และรอดตกชั้นได้สำเร็จ จากนั้นซีซั่นนี้ เขามีเวลาในการเตรียมทีม และหลอมรวมนักเตะทั้งเก่าและใหม่เป็นเนื้อเดียวกัน จนพาทีมติดอันดับ Top4 ได้สำเร็จ


เหตุผลที่สาม : การเสริมทัพนักเตะ

นิวคาสเซิล ถึงแม้จะมีเงินทุ่นมหาศาล แต่พวกเขากลับเสริมทัพผู้เล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป และเสริมในตำแหน่งที่จำเป็นเท่านั้น โดยใช้งบประมาณในตลาดซื้อขายนักเตะตั้งแต่เปลี่ยนกลุ่มทุนใหม่นี้ ไปประมาณ 205 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัว บรูโน่ กีร์มาไรซ์, คริส วู้ด, แดน เบิร์น, คีแรน ทริปเปียร์, นิค โป๊ป, แม็ตต์ ทาร์เก็ต, สเว่น บอสแมน และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค รวมไปถึงเซ็น คาริอุส มาแบบฟรีค่าตัวด้วย โดยจะเห็นได้ว่า พวกเขาเลือกตัวผู้เล่นที่เป็นแกนหลักมาเสริมทีมในตำแหน่ง กองหน้า, กองกลาง, กองหลัง และผู้รักษาประตู โดยไม่มีผู้เล่นระดับโลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังเข้ามาเลยแม้แต่รายเดียว ซึ่งถือเป็นการเสริมทัพได้อย่างชาญฉลาดของทีม


เหตุผลที่สี่ : เป้าหมายสำหรับฤดูกาลนี้

แน่นอนว่า เป้าหมายของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สำหรับซีซั่นนี้ ไม่ใช่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และไม่ใช่การคว้าโควต้าเพื่อไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หลังจากการแข่งขันผ่านมา 15 สัปดาห์ ดูเหมือนว่าพวกเขาคงต้องเปลี่ยนเป้าหมายได้แล้ว 14 นัด แพ้แค่เพียง 1 นัด รั้งอันดับ 3 ของตาราง จนทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกมากล่าวถึงด้วยว่า นิวคาสเซิล จะเป็นอีกทีมที่มาเบียดแย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากเป้าหมายที่ไม่ได้คาดหวัง สู่อันดับที่เฝ้ารอ ทำให้นิวคาสเซิล ลงสนามและเล่นอย่างไม่มีแรงกดดันใดๆ และลงเล่นด้วยความสนุก นั้นทำให้พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่น่ากลัวแน่นอนสำหรับในปีนี้


ที่มาภาพ : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง