4 ประเด็นหลังเกมบิ๊กแมตช์ แมนยู ชนะ อาร์เซน่อล 3-1

ก่อนเกมนี้จะเริ่ม ทัพปีศาจแดง ฝั่งเจ้าบ้าน ชนะ 3 นัด แพ้ 2 นัด ยังไม่เคยเสมอใคร และเป็นเกมที่ชนะติดต่อกัน 3 นัด ส่วนทีมเยือน ทัพปืนใหญ่ รั้งจ่าฝูง เก็บชัยชนะ 5 ติดต่อกัน เรียกได้ว่า เป็นทีมเดียวที่เก็บชัยชนะได้ 100% โดยเราจะมาวิเคราะห์กันว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างในเกมนี้

ประเด็นแรก : แอนโทนี่ เดบิวต์ในฝัน

เอริค เทน ฮาก จัดตัวผู้เล่นลงพบกับปืนใหญ่โดยที่คู่แข่งยังไม่เคยแพ้ใคร โดยรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง ทำเอาแฟนบอลต่างเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กันเมื่อเห็นชื่อของ แอนโทนี่ นักเตะคนใหม่ที่เพิ่งลงซ้อมกับทีมแค่เพียง 2 วันเท่านั้นออกสตาร์ทเป็นตัวจริงลงเล่นริมเส้นฝั่งขวา และเกมนี้เขาก็ตอบแทนความไว้วางใจให้กับเจ้านายคู่ใจ ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำไปได้นาทีที่ 35 จากการทำแอสซิสต์ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และวิ่งไปดีใจอย่างสุดเหวี่ยงจนทำให้ผู้ตัดสินต้องมาเตือน เนื่องจากแพสชั่นของปีกวัย 22 ปี มาเต็มจริงๆ และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากสำหรับเกมนี้

ประเด็นที่สอง : VAR ริบประตูอาร์เซน่อล

จังหวะนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 12 ของเกม เมื่อเป็นจังหวะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ถูก มาร์ติน โอเดการ์ด แย่งบอลจากด้านหลัง บอลไปเข้าทางเข้า บูกาโย่ ซาก้า แทงทะลุช่องให้กับ กาเบรียล มาร์ตินเนลี่ สปีดไปเอาบอลและจิ้มบอลส่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่สุดท้ายผู้ตัดสินดู VAR และริบประตูคือไป จังหวะนี้เป็นการตัดสินที่ถูกต้องของผู้ตัดสินเนื่องจากหากดูภาพช้า เอริคเซ่น บังบอลเหลี่ยมได้เปรียบทางด้าน โอเดการ์ด ทำให้กัปตันทีมอาร์เซน่อลถูกมองว่าเข้าบอลจากทางด้านหลังจึงตัดสินให้เป็นลูกฟาวล์

ประเด็นที่สาม : มาร์คัส แรชฟอร์ด ร่างทอง

เกมนี้ต้องยกเครดิตให้กับเจ้ามาร์คัส มีชื่อทำประตูบนสกอร์บอร์ด 2 ลูก และแอสซิสต์ 1 ลูก คว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองได้สำเร็จ โดยประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ในเกมนี้ ต่างก็เป็นประตูที่ได้มาจากลูกสวนกลับที่เฉียบคม ไม่ว่าจะเป็นลูกแรกที่เขาจ่ายบอลให้แอนโทนี่ เดบิวต์ได้อย่างสวยงาม และประตูที่ 2 บรูโน่ จ่ายคิลเลอร์พาสสุดสวยให้เขาหลุดเดี่ยวเข้าไปทำประตู และลูกที่สาม เอริคเซ่น กับ แรชฟอร์ด หลุดเดียวมาด้วยกันและก็เป็น เอริคเซ่นที่จ่ายถวายพานมาให้ยิงเข้าไปอย่างงดงาม

ประเด็นที่สี่ : อาร์เซน่อลเสียสถิติ 38-0-0 

เกมนี้เป็นเกมที่ อาร์เซน่อล เสียประตูเยอะที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลนี้มา ถึงแม้พวกเขายังรั้งจ่าฝูงอยู่ต่อไปในสัปดาห์นี้ แต่แน่นอนพวกเขาเสียสถิติ 37-0-1 เป้าหมายสูงสุดของทีมคือการเป็นแชมป์ไร้พ่าย เหมือนกับเมื่อปี 2004 ภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกตลอดกาลเมื่อ อาร์เซนอล กลายเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวจนถึงทุกวันนี้ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แบบไร้พ่าย เก็บไปถึง 90 แต้มจากการลงเล่น 38 นัด ซึ่งเป็นผลงานชนะ 26 เกม และเสมอ 12 เกม

ที่มาภาพ : AFP