4 ประเด็นหลังเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล

ก่อนเกมนี้จะเริ่ม ทอฟฟี่สีน้ำเงินฝั่งเจ้าบ้าน เสมอ 3 แพ้ 2 ได้แต้มจากการเสมอยังไม่ชนะใคร ส่วนทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล เริ่มดีขึ้นเรื่องผลการแข่งขันชนะต่อเนื่องสองเกม โดยมีอยู่หนึ่งเกมที่ยิงคู่แข่งไปถึง 9 ประตู หลังจากสามเกมแรกได้สองแต้มเท่านั้น แต่ทว่าเกมนี้จบด้วยสกอร์ 0-0 ลองมาวิเคราะห์กันทีละประเด็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในเกมนี้

ประเด็นแรก : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หายเงียบ

เกมนี้เป็นอีกเกมที่ไม่มีชื่อของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ บนสกอร์บอร์ดของการทำประตู ตั้งแต่นัดที่พวกเขาเอาชนะ บอร์นมัธ ไป 9-0 แมตช์นั้นหากใครเห็นเพียงแค่สกอร์ก็ต้องคิดว่าต้องมีชื่อของ ซาลาห์ ทำประตูแน่นอน และนัดนี้ก็เช่นกัน สกอร์ 0-0 กับการที่ ลิเวอร์พูล ยิงชนเสาและคานรวมกันทั้งหมด 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นมีจังหวะยิงของ โม ซาลาห์ อยู่ด้วย และเป็นเพียงแค่จังหวะเดียวในเกมนี้ที่เขาได้ง้างเท้ายิงในนาทีที่ 90+3 จะเห็นได้ว่าตลอดทั้งเกม ซาลาห์ เงียบมากเนื่องจากโดยผู้เล่นเอฟเวอร์ตัน ปิดตายเข้าบอลทีครั้งละ 2 คน ทำเอาซาลาห์ เท้าบอดอีกนัดหนึ่ง

ประเด็นที่สอง : จอร์แดน พิคฟอร์ด ซูเปอร์เซฟ

นัดนี้ต้องยกให้เป็นแมตช์ ออฟ เดอะ แมตช์ จริงๆ สำหรับฟอร์มการเล่นของนายทวารทีมชาติอังกฤษ โดยเขาเซฟไปทั้งหมด 8 ครั้ง ทำให้ทีมได้ 1 คะแนนสำคัญและเก็บคลีนชีทได้อีก เรียกได้ว่าสร้างความมั่นใจให้กับแผงแนวรับของทีมเป็นอย่างมาก

ประเด็นที่สาม : การจัดตัวของ คล็อปป์ มีเซอร์ไพรส์

เกมนี้ คล็อปป์ เลือกให้โอกาสผู้เล่นอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, คอสตาส ซิมิคาส และดาร์วิน นูนเญซ ลงสนามเป็นตัวจริง โดยเลือกพัก บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่ ที่ฟอร์มโดดเด่นยิงประตูได้ 2 เกมติดต่อกันนั่งเป็นตัวสำรอง และ แบ็คซ้ายตัวหลักอย่าง แอนดูรว์ โรเบิร์ตสัน ก็ได้ลงสนามมาในช่วงครึ่งหลัง โดยจังหวะเปลี่ยนตัว ก็ทำให้เกมรับของลิเวอร์พูลดูด้อยลงเหมือนกัน เมื่อเขาตัดสินใจถอด เทรนท์ อเล็กซ์ซานเดอร์ อาโนลด์ ออกและส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาเล่นแทน ทำเอาเอฟเวอร์ตันได้บุกขึ้นทางฝั่งขวาและมีโอกาสยิงประตูแต่ทว่าถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไป

ประเด็นที่สี่ : แนวรุกของ เอฟเวอร์ตัน คมไม่พอ

หลังจากที่ลิเวอร์พูล เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในช่วงครึ่งหลังส่งผลให้ เอฟเวอร์ตัน มีเกมที่ดีขึ้นสามารถ มีจังหวะสวนกลับสวยๆ หลายครั้ง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ศูนย์หน้ารายใหม่อย่าง  นีล โมเปย์ คมไม่พอ โดยมีอยู่จังหวะหนึ่งที่โต้กลับขึ้นมาทั้งแผง 5 คน บอลจังหวะสุดท้ายออกจากเท้าของ นีล โมเปย์ ยิงไปติดตัวของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เซฟเอาไว้ได้ทำให้ทีมไม่ได้ประตูสำคัญ

ที่มาภาพ : AFP